backup og meta

เจ็บใต้ราวอกซ้าย รู้ไหมเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 13/11/2023

    เจ็บใต้ราวอกซ้าย รู้ไหมเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง

    เจ็บใต้ราวอกซ้าย เป็นหนึ่งในสัญญาณทางสุขภาพเบื้องต้นที่ช่วยเตือนให้รู้ถึงความปกติของร่างกายตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีอวัยวะสำคัญ ๆ ซึ่งต้องหมั่นสังเกตและตรวจสอบไว้เป็นระยะ ๆ ว่าอาการเจ็บน้อย ปาน กลาง และมากนั้น สะท้อนปัญหาสุขภาพด้านใดได้บ้าง

    เจ็บใต้ราวอกซ้าย เสี่ยงต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

    บริเวณหน้าอกข้างซ้าย หรือใต้ราวนมซ้าย เป็นจุดที่มีอวัยวะสำคัญ ๆ หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ตับ หรือไต ดังนั้น หากเกิดอาการเจ็บหรือปวดบริเวณใต้ราวอกข้างซ้ายขึ้น อาจสะท้อนปัญหาสุขภาพได้หลายรูปแบบ ทั้งยังต้องดูอาการอื่น ๆ ประกอบด้วย เพื่อให้สามารถจำแนกปัญหาสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วหากเจ็บใต้ราวอกซ้าย อาจหมายถึงสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ ดังนี้

    1. หัวใจวาย

    เนื่องจากบริเวณใต้ราวอกซ้ายเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับหัวใจ หากเกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย จึงอาจเป็นสัญญาณความเสี่ยงของภาวะหัวใจวายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย

    • เหงื่อออกมาก
    • คลื่นไส้หรืออาเจียน
    • หายใจถี่และสั้น
    • ปวดที่แขนหรือไหล่
    • แขนหรือไหล่อ่อนเพลีย
    • อาการเจ็บลามไปยังแขน คอ ขากรรไกร หลัง และอวัยวะอื่น ๆ
    • วิงเวียนศีรษะ

    2. เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

    โดยปกติหัวใจมีเยื่อบาง ๆ ล้อมรอบ เรียกว่าเยื่อหุ้มหัวใจ เมื่อเยื่อนี้เกิดอาการระคายเคืองหรืออักเสบเนื่องจากการติดเชื้อ หรือความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจัยเหล่านี้จะก่อให้เกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย หรือกลางหน้าอก โดยจะมีอาการปวดที่เจ็บแปลบขึ้นมาเวลาไอ เวลานอน หรือเวลารับประทานอาหาร อีกทั้งอาการปวดยังอาจจะลุกลามไปยังไหล่ คอ และหลังด้วย

    3. เยื้อหุ้มปอดอักเสบ

    ปอดมีพังผืด หรือที่เรียกว่าเยื่อหุ้ม ล้อมรอบอยู่ หากมีอาการระคายเคืองหรืออักเสบขึ้นที่เยื่อหุ้มปอดก็จะส่งผลให้เกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย หรือบริเวณกลางหน้าอก ประกอบกับมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย

    • เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ
    • หายใจตื้น เนื่องจากจะรู้สึกเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้ามากเป็นพิเศษ จึงมีการหายใจตื้น ๆ เพื่อลดอาการเจ็บปวด

    4. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ

    เมื่อเยื่อบุในกระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองและอักเสบ จะส่งผลให้มีอาการเจ็บแปลบขึ้นที่กลางหน้าอกหรือบริเวณใต้ราวนมซ้าย พร้อมกับมีอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด หรืออาเจียนร่วมด้วย

    5. กระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ

    ภาวะกระดูกอ่อนของซี่โครงอักเสบนี้ มักพบได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป และมักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บเวลาที่ยกของหนัก หรือมีการติดเชื้อบริเวณกระดูกอ่อนที่ยึดกับซี่โครง ส่งผลให้เกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย มากไปกว่านั้น อาการของกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบจะมีอาการอื่น ๆ ที่คล้ายกับหัวใจวาย แต่อาการของกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบจะมีข้อแตกต่าง ดังนี้

    • ไม่มีอาการเหงื่อออก
    • อาการเจ็บปวดจะอยู่เฉพาะบริเวณใต้ราวนมซ้ายและซี่โครง ไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ
    • สามารถหายใจได้เป็นปกติ แต่จะรู้สึกเจ็บซี่โครงเวลาหายใจเข้าออกลึก ๆ

    6. ตับอ่อนอักเสบ

    เมื่อเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ จะสร้างความระคายเคือนให้ตับอ่อนหรือเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวดขึ้นมาอย่างเฉียบพลันที่บริเวณใต้ราวอกข้างซ้ายและช่วงบนของหน้าท้อง และมีอาการดังต่อไปนี้ประกอบด้วย

    หากมีอาการปวดเนื่องจากตับอ่อนอักเสบเป็นประจำ มักส่งผลให้อาการปวดค่อย ๆ ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ โดยเฉพาะบริเวณช่วงหลัง และยังเสี่ยงที่จะเกิดอาการท้องร่วงด้วย

    7. การบาดเจ็บที่ม้าม และม้ามโต

    ม้าม เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกรองเลือด อุบัติเหตุใด ๆ ก็ตามที่ส่งผลให้ม้ามเกิดการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะอุบัติเหตุทางรถยนต์ การพลักตก หกล้ม การกระแทก หรือการที่ม้ามโตกว่าปกติ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นบริเวณม้าม จะทำให้ม้ามอ่อนแอ เสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะเลือดรั่วเข้าสู่ช่องท้อง และก่อให้เกิด อาการปวดเจ็บใต้ราวอกซ้าย

    8. ไส้เลื่อนกระบังลม

    ไส้เลื่อนกระบังลมเกิดจากการที่กระเพาะอาหารส่วนบนมีการเคลื่อนตัวไปยังบริเวณช่องอก ทำให้กรดที่ใช้ในการย่อยอาหารไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหาร ส่งผลให้มีอาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก และ อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย ประกอบกับมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย

    • เรอ
    • กลืนอาหารลำบาก
    • ร่างกายไม่สามารถลำเลียงก๊าซหรืออุจจาระได้

    เมื่อใดควรไปพบคุณหมอ

    เจ็บใต้ราวอกซ้าย มีหลายอาการและหลายระดับ ตั้งแต่เจ็บเพียงเล็กน้อยและไม่รุนแรง ไปจนถึงระดับที่รุนแรงมากและเป็นอันตราย แต่ถ้าหากมี อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย พร้อมกับอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอ

    • มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ ปอดอยู่แล้ว
    • หายใจถี่และสั้น
    • หายใจไม่ออก หรือหายใจลำบาก
    • มีการบาดเจ็บที่หน้าอก
    • มี อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย หรือเจ็บหน้าอกอย่างเฉียบพลัน
    • มีอาการท้องร่วง
    • อุจจาระเปลี่ยนสี เช่น มีเลือดปน หรือมีสีดำคล้ายน้ำมันดิบ
    • อาการปวดเริ่มส่งต่อไปยังอวัยวะอื่น ๆ
    • มีเหงื่อออกมาก

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 13/11/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา