สรรพคุณของข้าวยีสต์แดง
ข้าวยีสต์แดงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารข้าวหมักจากจุลินทรีย์ สกุล โมแนสคัส เพอเพียวริอุส
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ข้าวยีสต์แดงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารข้าวหมักจากจุลินทรีย์ สกุล โมแนสคัส เพอเพียวริอุส
ยีสต์แดงใช้รักษาอาการต่อไปนี้:
ยีสต์แดง ใช้เป็นสีสันในเมนูเป็ดปักกิ่งได้
เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับยีสต์แดง ไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ยีสต์แดงมีสารคล้ายกับยาสแตติน ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ยีสต์แดง
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยีสต์แดงนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ยีสต์แดงปลอดภัยสำหรับการรับประทานติดต่อกันเป็นเวลากว่า 4 ปี
ยีสต์แดงหากได้รับการหมักไม่ถูกวิธีอาจทำให้มีสารซิตรินิน ซึ่งอาจเป็นพิษต่อไต
ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ยีสต์แดงอาจไม่ปลอดภัยสำหรับการรับประทานในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจมีอันตรายต่อครรภ์
ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยีสต์แดงในระหว่างตั้งครรภ์และห้นมบุตร ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย
โรคตับ: ยีสต์แดงมีสารที่คล้ายกับสารสแตตินหรือโลวาสแตติน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตับได้ งานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่ายีสต์แดงอาจเป็นอันตรายต่อตับ แต่ได้มีบางงานวิจัยแย้งว่ายีสต์แดงสามารถช่วยปรับปรุงระบบการทำงานในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับได้ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยีสต์แดงงอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการข้างต้น
ยีสต์แดงมีสารที่คล้ายกับสารสแตตินหรือโลวาสแตติน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตับ และอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
อาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงเมื่อรับประทานยีสต์แดง
จากอาการผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาแพทย์
ยีสต์แดงอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้
ผลิตภัณฑ์ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยีสต์แดง:
การดื่มแอลกอฮอล์อาจเป็นอันตรายต่อตับ ยีสต์แดงอาจส่งผลกระทบต่อตับเช่นกัน เมื่อใช้ร่วมกันอาจเพิ่มความเสี่ยงอันตรายให้แก่ตับได้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกัน
ยีสต์แดงอาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อ ยาไซโคลสปอริน (นีโอรอล) อาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อเช่นกัน เมื่อรับประทานร่วมกันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง
ยาเจมไฟโบรซิล (โลปิด) อาจมีผลต่อกล้ามเนื้อ ยีสต์แดงมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน เมื่อรับประทานร่วมกันอาจเพิ่มความเสี่ยงแก่กล้ามเนื้อ
ยีสต์แดงประกอบไปด้วยสารสแตตินหรือโลวาสแตติน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตับ เมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นที่เป็นอันตรายต่อตับอาจเพิ่มความเสี่ยงแก่ตับ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกัน
ยาที่เป็นอันตรายต่อตับ เช่น อะเซตามิโนเฟ่น อะมิโอดาโรน คาร์บามาเซฟีน ไอโซไนอาซิด เมโธเทกเซท เมทิลโดปา ฟลูโคนาโซล ไอทราโคลนาโซล อิริโทรมัยซิน เฟนิโทอิน โลวาสแตติน พราวาสแตติน ซิมวาสแตติน และอื่นๆ
ตัวยา หรือสารที่ทำหน้าที่ยับยั้งเอ็นไซม์ CYP3A4 เรียกว่า เป็น CYP3A4 inhibitor เมื่อเอ็นไซม์ท างาน ได้น้อยลง ผลที่เกิดจะท าให้ระดับของยาในกระแสเลือด “เพิ่ม” ขึ้น เพราะเอ็นไซม์ถูกสกัดกั้นไม่ให้ทำงาน
ยาบางชนิดอาจลดปริมาณการทำลายตับจากยีสต์แดงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรับประทานร่วมกันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ถ้ามีอาการข้างต้น
ยาบางชนิดอาจลดปริมาณการทำลายตับจากยีสต์แดงได้อย่างรวดเร็ว เช่น อะมีโอดาโรน คาร์ริโธมัยซิน ดิลไทอะซิม อิริโทรมัยซิน อินดินาเวียร์ ริโทนาเวียร์ ซาควินาเวียร์ และอื่นๆ
ยีสต์แดงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เมื่อรับประทานร่วมกับยาสแตตินอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการไม่พึงประสงค์ ไม่ควรรับประทานยีสต์แดงหลังจากรับประทานยาลดระดับคอเลสเตอรอล
ยาลดระดับคอเลสเตอรอล เช่น เซริวาสแตติน อะทอร์วาสแตติน โลวาสแตติน พราวาสแตติน ซิมวาสแตติน และอื่นๆ
ไนอะซินอาจมีผลต่อกล้ามเนื้อ ยีสต์แดงก็มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน เมื่อรับประทานร่วมกันอาจเพิ่มความเสี่ยงของปัญหากล้ามเนื้อ
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือแพทย์ก่อนใช้
ข้อมูลต่อไปนี้คือผลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์:
การรับประทาน:
สำหรับการรักษาภาวะคอเลสเตอรอลสูง: รับประทานยีสต์แดง 1,200 – 2,400 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสแตติน เท่านั้นที่มีเอกสารกำกับยาว่า ใช้เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งมีผลายผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยสารโลวาสแตตินปริมาณ 5-10
ภาวะคอเลสเตอรอลสูงเนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวี: รับประทานยีสต์แดงปริมาณ 1,200 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ปริมาณการใช้ยีสต์แดงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วย ซึ่งปริมาณยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทาน
ยีสต์แดงอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
*** Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาแต่อย่างใด ***
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย