ฟักทองเป็นผักเนื้อสีเหลืองหรือสีส้มที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่อผ่านการย่อยสลายในร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ป้องกันตาบอด ป้องกันต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของเม็ดสีในตา โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Zhonghua Yu Fang Yi Xue Za Zhi เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 วิจัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบระดับลูทีน ซีแซนทีน และเบต้าแคโรทีนในอาหารดิบและอาหารปรุงสุก พบว่า ลูทีนมีมากในพืชตระกูลแตง พืชตระกูลมะเขือและถั่ว โดยเฉพาะในฟักทองพบ 13,265.2 ไมโครกรัม/100 กรัม ส่วนซีแซนทีนที่พบในฟักทองทรงกลม มีประมาณ 444.6 ไมโครกรัม/100 กรัม
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Interventions in Aging เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 วิจัยเกี่ยวกับสารอาหารที่ช่วยป้องกันสุขภาพตาเสื่อมก่อนวัย พบว่า มีสารอาหารหลายชนิด ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน สังกะสี ลูทีน ซีแซนทีน กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันการอักเสบของเซลล์ในตา ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคตาที่เสื่อมสภาพตามอายุได้
-
บำรุงสุขภาพหัวใจ
ฟักทองอุดมไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินซี และไฟเบอร์ ซึ่งอาจดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคหัวใจ โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Cardiology เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 วิจัยเกี่ยวกับการเสริมโพแทสเซียมในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง พบว่า การเสริมโพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้บริโภคที่มีโซเดียมในร่างกายสูง ผู้ที่ไม่ได้รักษาด้วยยาความดันโลหิตสูง และกลุ่มที่ได้รับโพแทสเซียมต่ำ ควรได้รับโพแทสเซียมที่เพียงพอประมาณ 90 มิลลิโมล/วัน เพื่อควบคุมความดันโลหิต
และยังมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Molecular Sciences เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 วิจัยเกี่ยวกับวิตามินซีและสุขภาพหัวใจ พบว่า วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันไขมัน (Lipid Peroxidation) ซึ่งเป็นกระบวนการย่อยสลายไขมันและส่งต่อไปยังเซลล์ในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจอุดตัน นอกจากนี้ วิตามินซีอาจช่วยเพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และป้องกันเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดตาย
นอกจากนี้จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Chiropractic Medicine เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 วิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของใยอาหารในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด พบว่า การบริโภคใยอาหารสูงอาจช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากใยอาหารช่วยลดความเข้มข้นของโคเลสเตอรอลและไขมันไม่ดี (LDL) ในร่างกายได้
-
บำรุงสุขภาพผิว
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย