backup og meta

สิวที่หัวนม เกิดจากอะไร ใช่สัญญาณเตือนภัยโรคร้ายหรือเปล่า

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 29/01/2024

    สิวที่หัวนม เกิดจากอะไร ใช่สัญญาณเตือนภัยโรคร้ายหรือเปล่า

    สิวที่หัวนม คือปัญหาทางผิวหนังชนิดหนึ่ง โดยเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายสิวเกิดขึ้นที่บริเวณรอบ ๆ หัวนม ซึ่งอาการเหล่านี้มักถูกปล่อยให้หายไปเองหรือรักษาด้วยตนเอง ส่วนใหญ่แล้ว สิวขึ้นที่หัวนมนับเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายอย่างใด อย่างไรก็ตาม หากเกิดสิวที่หัวนมบ่อยผิดปกติ หรือมีลักษณะรุนแรง เช่น มีหนอง เจ็บปวดอย่างมาก ควรปรึกษาคุณหมอ

    สิวที่หัวนม เรื่องปกติหรือสัญญาณบอกโรค

    สิวที่หัวนม มักมีลักษณะเป็นตุ่มสิวที่ไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย สิวเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นจากการอุดตันของรูขุมขน จนทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น เฉกเช่นเดียวกับสิวในบริเวณอื่น และสามารถหายไปได้เอง แต่อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งอาการสิวที่หัวนมเหล่านี้ อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องทำการรักษาได้เช่นกัน

    สิวที่หัวนม เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

    สาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยของอาการ เป็นสิวที่นม อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุดังต่อไปนี้

    สิวอักเสบ

    สาเหตุสำคัญที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการสิวที่หัวนมนั้น มาจากปัญหาสิวอักเสบ ที่เกิดขึ้นจากการอุดตันของรูขุมขน เช่นเดียวกันกับสิวในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและไขมันบนผิวหนังเข้าอุดตันในรูขุมขน หรืออาจจะเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การสวมเสื้อผ้าที่คับแน่น ก็สามารถทำให้เกิดอาการสิวอักเสบตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย รวมไปจนถึงสิวในบริเวณหัวนมได้เช่นกัน

    ตุ่มไขมัน

    ตุ่มไขมันที่เรียกว่า Areolar glands หรือ Montgomery gland นั้นคือตุ่มไขมันหน้าตาคล้ายสิว ที่มักจะเกิดขึ้นบริเวณหัวนมและลานนม มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันออกไป ตุ่มไขมันเหล่านี้จะทำหน้าที่หลั่งน้ำมันออกมา เพื่อช่วยเคลือบชั้นผิวหนัง และลดการเสียดสีของผิวหนังกับผ้า แต่หากหลั่งออกมามากเกินไปก็อาจทำให้เป็นสิวที่หัวนมซึ่ง เป็นอาการปกติ และมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน

    การติดเชื้อ

    หากอาการสิวที่หัวนมเกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่น เช่น ผดผื่น รอยแดง อาการคัน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังติดเชื้อราที่ผิวหนัง ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้มีเหงื่อออก และเกิดความอับชื้น จนทำให้เชื้อราเจริญเติบโต และแพร่กระจายบนผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาต้านเชื้อรา

    ฝีรอบหัวนม (Subareolar abscess)

    อาการฝีรอบหัวนมนั้นเกิดขึ้นจากการสะสมของน้ำหนองภายในเนื้อเยื่อของเต้านม ที่มักจะมีสาเหตุมาจากโรคเต้านมอักเสบ (Mastitis) ฝีรอบหัวนมนั้นจะมีลักษณะเป็นตุ่มหนองคล้ายสิวบวมขึ้นมา ในบริเวณรอบ ๆ หัวนม และลานนม มักจะทำให้รู้สึกเจ็บ และอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งเต้านมได้

    การรักษาสิวที่หัวนม

    การรักษาสิวที่หัวนมขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น

    • หากเป็นสิวอักเสบ อาจจะใช้วิธีการรักษาเช่นเดียวกับสิวทั่วไป คือใช้ยาแต้มสิวเพื่อช่วยลดการอักเสบของสิว และทำให้สิวแห้ง
    • หากเป็นสิวที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อรา อาจจะใช้ยาต้านเชื้อราเพื่อกำจัดเชื้อราให้หมดไปเสียก่อน

    โดยส่วนใหญ่แล้ว สิวขึ้นที่หัวนมนั้น มักหายไปได้เองโดยไม่ต้องไปบีบ แคะ แกะ เกา จะยิ่งทำให้อาการรุนแรง เกิดอาการระคายเคืองขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ลองใช้น้ำอุ่น ผสมกับสบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) ทำความสะอาดบริเวณที่เป็นสิว เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อได้

    เมื่อไรควรไปหาคุณหมอ

    สิวขึ้นที่หัวนมอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคอันตรายต่อร่างกาย และจำเป็นต้องรับการรักษาอย่างเหมาะสม หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้

    • บวม
    • รู้สึกปวดหรือเจ็บมาก
    • มีผดผื่น รอยแดง
    • หัวนมบอด
    • เต้านมมีรอยบุ๋มลงไป
    • มีสารคัดหลั่ง เช่น เลือดหรือน้ำหนอง ไหลออกจากหัวนม

    อาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับสิวที่หัวนมอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคร้าย เช่น โรคมะเร็งเต้านม จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและการรักษาจากแพทย์อย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันการลุกลาม และส่งผลร้ายต่อสุขภาพ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 29/01/2024

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา