สารอาหารที่พบได้ในโกโก้อย่าง โพลีฟีนอล มีคุณสมบัติสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบ เผาผลาญไขมัน และอาจช่วยป้องกันโรคอ้วนได้
จากการศึกษาเกี่ยวกับโกโก้และประสิทธิภาพในการต้านโรคอ้วนที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Nutrition & Food Research เมื่อปี พ.ศ. 2557 พบว่า โพลีฟีนอลมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน ช่วยลดการสะสมของไขมันที่อาจนำไปสู่โรคอ้วน อีกทั้งยังช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบเรื้อรัง ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และภาวะความดันโลหิตสูงได้ อย่างไรก็ตาม งานศึกษาชิ้นนี้เป็นงานศึกษาในห้องทดลอง จึงยังคงต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
ข้อควรระวังในการรับประทานโกโก้
แม้ว่าประโยชน์ของโกโก้ที่ดีต่อสุขภาพอาจมีมากมาย แต่ควรเลือกรับประทานโกโก้ที่มีส่วนประกอบของโกโก้ 60-70% ขึ้นไป อีกทั้งยังควรระวังการรับประทานโกโก้ที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลและครีมเทียมในปริมาณมาก เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลโภชนาการข้างฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนบริโภคทุกครั้ง
นอกจากนี้ โกโก้ยังมีคาเฟอีนสูง การรับประทานโกโก้ในปริมาณมากจึงอาจทำให้นอนหลับยาก นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว และปัสสาวะบ่อย อีกทั้งสตรีตั้งครรภ์ยังไม่ควรรับประทานโกโก้ เพราะคาเฟอีนอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ เสี่ยงต่อปัญหาคลอดก่อนกำหนด แท้งบุตร และน้ำหนักทารกแรกเกิดน้อย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย