backup og meta

หลับสบายด้วย 5 ท่าโยคะก่อนนอน ที่อาจทำให้คุณตื่นมาพร้อมกับหุ่นที่ดี

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 29/07/2020

    หลับสบายด้วย 5 ท่าโยคะก่อนนอน ที่อาจทำให้คุณตื่นมาพร้อมกับหุ่นที่ดี

    แน่นอนว่าการนอนหลับเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อชีวิตของเราอย่างมาก เพราะถือเป็นการชาตพลังงานในร่างกายของเราให้พร้อมที่จะดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในวันถัดไปได้อย่างไม่รู้สึกอ่อนเพลีย แต่จะทำอย่างไรให้คุณหลับสนิทไม่เผลอตื่นขึ้นมากลางดึก บทความนี้ของ Hello คุณหมอ ได้รวบรวม 5 ท่าโยคะก่อนนอน ที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย มาฝากทุกคนให้ได้เริ่มลองไปพร้อมกันค่ะ

    5 ท่าโยคะก่อนนอน เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ

    การออกกำลังกายด้วยโยคะ ถือเป็นวิธีที่อ่อนโยนในการบริหารร่างกายของเราให้ไม่รู้สึกหนักจนเกินไป ซึ่งในการสำรวจระดับชาติพบว่า ผู้คนมากกว่า 55% ที่ทำการโยคะก่อนการนอน สามารถช่วยให้พวกเขามีการนอนหลับที่ดีขึ้นถึง 85% และยังช่วยลดระดับความเครียดจากเหตุการณ์ที่คุณได้ประสบมาในแต่ละวันได้ดีขึ้นอีกด้วย โดยปฏิบัติตามง่าย ๆ ด้วย 5 ท่า เหล่านี้

  • ท่ายืดขาตรงขึ้นบนผนังกำแพง (Legs Up the Wall)
  • โดยท่านี้คุณสามารถเริ่มบริหารร่างกายได้จากการหาพื้นที่ที่มีกำแพงภายในบ้าน หรือห้องนอนของคุณ จากนั้นวางตัวลงนอนพร้อมกับยกขาขึ้นตรงสูงไปสู่บนกำแพงให้มีลักษณะตั้งฉาก และนำมือแนบไว้ข้างลำตัว

    หากคุณกังวลถึงอาการเจ็บปวด อาจจำเป็นต้องหาเสื่อโยคะ หรืออุปกรณ์ที่ค่อนข้างนิ่มนวลมารองรับบริเวณแผ่นหลังของคุณไว้ร่วมด้วยได้

    1. ท่าเด็กหมอบ (Child’s Pose)

    คุกเข่าลงบนกับพื้น พร้อมแยกออกจากกันเล็กน้อย โดยอาจใช้เสื่อโยคะ หรือแผ่นยางสำหรับออกกำลังกายรองหัวเข่าของคุณไว้ จากนั้นโน้มตัวลงไปข้างหน้าให้ศีรษะ หรือหน้าผากติดกับแผ่นยาง นำแขนทั้ง 2 ข้างเหยียดตรงออกไปด้านหน้า และสูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างช้า ๆ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย

    โปรดระวังหากคุณกำลังประสบกับความปวดเมื่อย หรือมีอาการบาดเจ็บเกี่ยวข้องกับสะโพก และหัวเข่าร่วม เพราะอาจทำให้อาการของคุณนั้นทรุดลงได้

    1. ท่าเทพธิดาเอนกาย (Reclining Goddess Pose)

    เพียงแค่คุณเอนร่างกายในท่าทางนอนหงายลงบนแผ่นรอง จากนั้นกางขาออก แล้วนำปลายเท้าทั้ง 2 ข้างมาประกบกัน หากประกบกันไม่ถึงคุณอาจหาตัวช่วยโดยการนำเบาะ หรือหมอนรองบริเวณหัวเข่าให้มีความสูงขึ้น เพื่อที่จะช่วยในการยืดหยุ่นให้ปลายเท้าของคุณประกบชิดเข้าหากันได้ พร้อมกับนำแขนคุณทั้งข้างยืดขึ้นไปด้านศีรษะ หรือประสานกันไว้ตามสะดวก และสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ให้อากาศไหลเวียนไปยังปอด จากนั้นให้หายใจออกช้า ๆ ตามปกติ

    1. ท่ายืนก้มตัว (Standing Forward Bend)

    ท่านี้เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระดูกสันหลัง จนถึงบริเวณท้ายทอยของคุณให้มีความยืดหยุ่นขึ้นจากการปวดเมื่อยมาตลอดทั้งวัน โดยเริ่มจากยืนตัวตรง และค่อย ๆ โน้มตัวลงไปจนรู้สึกว่าร่างกายของคุณไม่สามารถยืดต่อได้ พร้อมกับนำแขนคุณดัน หรือค้ำพื้นไว้ร่วมด้วยได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเบื้องต้น

    1. ท่านอนหงาย (Corpse Pose)

    นับได้ว่าเป็นท่าสุดท้ายแห่งการฝึกโยคะที่จะทำให้ร่างกายคุณผ่อนคลายจากท่าบริหารทั้งหมด เพียงแค่คุณนอนหงายลง ทำจิตใจให้สงบ ปราศจากความคิดใด ๆ ในขณะหลับตา หายใจเข้า-ออกอย่างช้า ๆ เพื่อให้คูรถึงความผ่อนคลายได้มากขึ้น

    ข้อแนะนำเพิ่มเติม

    ข้อดีในการทำโยคะอาจทำให้คุณมีจิตใจที่สงบ ลดระดับความเครียด และปรับปรุงความสมดุลให้แก่ร่างกายของคุณได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีข้อเสียเล็กน้อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพเกี่ยวกับกระดูกร่วม ดังนั้นก่อนการฝึกโยคะ ควรทำการศึกษา และตรวจสอบสุขภาพของตนเอง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอว่าร่างกายของคุณพร้อมรับการฝึกในเทคนี้หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของคุณ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 29/07/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา