สถาบันสุขภาพจิตแห่งช่าติของสหรัฐฯ รายงานว่ามีผู้ชายมากถึงหกล้านคนที่เป็นโรคซึมเศร้าในแต่ละปี โรคซึมเศร้าเป็นอาการทั้งทางจิตใจและทางร่างกาย ที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ อาการของโรคซึมเศร้าก็อย่างเช่น รู้สึกเศร้า ว่างเปล่า หมดหวัง ไม่สนใจความเป็นไปในโลก ไม่มีสมาธิ มีปัญหาการนอนหลับ พลังงานลดลง น้ำหนักเปลี่ยนแปลง และอาการอ่อนเพลียตลอดเวลา ก็เป็นหนึ่งในอาการของโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน แต่โรคนี้สามารถรักษาได้ การปรึกษาจิตแพทย์และการกินยาสามารถรักษาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคซึมเศร้าหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดความคิดที่จะทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้
ขาดธาตุเหล็ก
โรคโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็กมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่โรคโลหิตจางทุกประเภทล้วนแต่ทำให้เกิดภาวะอ่อนเพลีย และไม่มีพลังวังชาอย่างต่อเนื่องได้ทั้งสิ้น ระดับธาตุเหล็กต่ำในผู้ชาย อาจเกิดมาจากการกินอาหารมังสวิรัติที่ไม่สมดุล การบริจาคเลือดบ่อยเกินไป หรืออาการมีอาการเลือดออกภายใน เช่น ที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้ สาเหตุอื่นของโรคโลหิตจางได้แก่การขาดวิตามินเช่น วิตามินบี 12 หรือโฟเลต
การกินยา
ยาบางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ปวด ยาโรคหัวใจ ยาลดความดันโลหิต ยาต้านอาการซึมเศร้าบางประเภท ยาต้านฮิสตามีน หรือยาแก้ไอบางอย่าง อาการอ่อนเพลียยังอาจเกิดจากการบริโภคคาเฟอีมากเกินไป การติดแอกอฮอล์ และการติดยาเสพติด
การกินอาหารไม่ดีและขาดการออกกำลังกาย
อาการอ่อนเพลียยังอาจเป็นผลมาจากการกินอาหารไม่ดี และการขาดการออกกำลังกายก็เป็นได้ ถึงแม้การออกกำลังกายจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากทำ เวลาที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่การทำให้โลหิตสูบฉีดด้วยการเดินแค่ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละห้าวัน จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลังวังชาขึ้น รวมทั้งทำให้การนอนหลับดีขึ้นด้วย
การเปลี่ยนมากินอาหารมื้อเล็กๆ ตลอดวัน ก็จะเป็นการให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยต่อสู้กับอาการอ่อนเพลีย เลือกอาหารที่อุดมด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน และดื่มน้ำเยอะๆ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาการที่ผ่านกระบวนการ และน้ำอัดลม เพราะอาหารพวกนี้อาจทำให้ให้พลังงานพุ่งขึ้นสูง แล้วตกลงมาอย่างรวดเร็วที่ส่งผลให้เกิดอาการอ่อ่นเพลียได้
หาความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
เราทุกคนต่างก็เจออาการอ่อนเพลียไม่มีพลังวังชาเป็นครั้งครา ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ถ้าอาการอ่อนเพลียของคุณไม่หายไป ทั้งที่ปรับการกินอาหาร การออกกำลังกาย และการนอนหลับ หรือยิ่งอ่อนเพลียหนักขึ้น คุณก็ควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพ เพื่อที่จะหาสาเหตุที่แท้จริง และวิธีการรักษาต่อไป
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย