backup og meta

5 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 21/03/2022

    5 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน อาจเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่มักเลือกรับประทาน ซึ่งมีทั้งรูปแบบของสมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยควรรับประทานควบคู่กับยารักษาโรคเบาหวาน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

    ผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่มักเลือกรับประทานอาหารเสริม ทั้งในรูปแบบของสมุนไพร และในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควบคู่ไปกับยารักษาโรคเบาหวาน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิด รวมถึงอ่านรายละเอียดและข้อบ่งใช้ให้ชัดเจนก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนั้น ๆ 

    5 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

    • อบเชย 

    อบเชยอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารพฤกษศาสตร์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of Medicinal Food เมื่อ พ.ศ. 2554 ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคอบเชยช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดจากการอดอาหาร พบว่า อบเชยทั้งในรูปแบบสมุนไพรและแบบสารสกัด มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และสร้างการตอบสนองต่ออินซูลิน เพียงรับประทานสารสกัดจากอบเชย 120 หรือ 360 มิลลิกรัม ก่อนอาหารเช้า ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารลดลง 11% หรือ 14%

    • โสม

    จินซิโนไซด์ (Ginsenoside) ซึ่งเป็นสารสกัดในโสม อาจปรับสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecules เมื่อ พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโสมที่มีฤทธิ์ต้านเบาหวาน พบว่า ฤทธิ์ต้านเบาหวานของโสมเป็นผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งยังช่วยในการการควบคุมการหลั่งอินซูลิน การรับกลูโคส ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน และต้านการอักเสบ อย่างมีนัยสำคัญ

  • โพรไบโอติก 
  • โพรไบโอติก คือ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ โดยโพรไบโอติกจะไปใช้น้ำตาลกลูโคสในลำไส้และช่วยยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลกลูโคลในลำไส้ ดังนั้น จึงทำให้ระดับน้ำตาลในลือดลดลง จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Trakia Journal of Sciences เมื่อ พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโพรไบโอติกที่มีผลต่อเบาหวาน พบว่า โพรไบโอติกมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและโรค ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกัน ปรับปรุงการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ทั้งยังช่วยลดการสะสมของไขมัน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด

    • วิตามินดี

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินดี มีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับอ่อนที่สร้างอินซูลิน และเพิ่มการตอบสนองของร่างกายต่ออินซูลิน จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Steroid Biochemistry and Molecular Biology เมื่อ พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของวิตามินดีที่มีผลต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า การขาดวิตามินดีเกี่ยวข้องกับการหลั่งอินซูลินที่ลดลง การดื้อต่ออินซูลิน และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ดังนั้น การรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินดีอาจช่วยปรับปรุงความไวในการหลั่งอินซูลิน ทั้งยังช่วยปรับปรุงภาวะดื้ออินซูลินอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

  • แมกนีเซียม
  • แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกาย โดยอาจพบได้ในผัก ปลา เนื้อสัตว์ นม ผลิตภัณฑ์จากนม  ถั่วเมล็ดแห้ง จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Diabetes Care เมื่อ พ.ศ. 2554 ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของการบริโภคแมกนีเซียมและความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า เมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแมกนีเซียม ปริมาณ 250-350 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลา 6-24 สัปดาห์ ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารลดลง 

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

    แม้ว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอาจมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น อาการความรุนแรงของโรค คุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ดังนั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ควรปรึกษาคุณหมอหากกำลังรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอาจเพิ่มความเสี่ยงให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำเกินไป

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 21/03/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา