อาการบวมตอนท้องสามารถเกิดได้ตลอดช่วงตั้งครรภ์ แต่มักพบในคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป โดยบางรายอาจมีอาการนิ้ว ใบหน้า และลำคอบวมร่วมด้วย อาการบวมนี้อาจมากขึ้นอีกเมื่อถึงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ และจะยิ่งรุนแรงขึ้น หากว่าที่คุณแม่มีน้ำคร่ำมากเกินไป หรือตั้งท้องลูกแฝด
แม้จะคลอดลูกแล้ว อาการบวมตอนท้องนี้ก็ยังจะไม่หายไปทันที แถมในช่วง 3-4 วันแรกหลังคลอดลูก อาการอาจยิ่งหนักขึ้น หลังคลอดร่างกายจำเป็นต้องกำจัดส่วนเกิน เช่น เลือด ของเหลวที่เพิ่มขึ้นมาในตอนท้องออก จึงทำให้คุณแม่เพิ่งคลอดปัสสาวะบ่อยและเหงื่อออกมาก แต่ไตก็ไม่สามารถกำจัดของเหลวส่วนเกินออกได้หมดในทันที ทำให้ยังมีของเหลวคั่งค้างอยู่ในเนื้อเยื่อ อาการบวมจึงยังคงอยู่ จนกว่าร่างกายจะสามารถกำจัดของเหลวเหล่านั้นออกไปได้หมด
วิธีลดอาการบวมตอนท้อง
อาการบวมตอนท้องเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็สามารถลดความรุนแรงได้ด้วยวิธีเหล่านี้
- ลดการบริโภคโซเดียม น้ำตาล ไขมันทรานส์ และคาร์โบไฮเดรต เพราะจะทำให้ของเหลวส่วนเกินคั่งค้างอยู่ในร่างกาย
- ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อให้ร่างกายมีน้ำเพียงพอ ช่วยลดอาการบวมน้ำและภาวะขาดน้ำระหว่างตั้งครรภ์
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัด
- หากต้องยืนนาน ๆ ไม่ควรอยู่ในท่าเดิมตลอด ควรเหยียดแข้งเหยียดขา หรือเปลี่ยนท่าบ้าง
- งดนั่งไขว่ห้าง นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งทับข้อเท้า
- สวมรองเท้าที่สบายเท้า หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าที่มีสายรัดแน่นเกินไป
- สวมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่ไม่รัดบริเวณข้อมือ ข้อศอก ข้อเท้าและน่อง
- นอนตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้สะดวกขึ้น หรือนอนยกขาสูงโดยอาจใช้หมอนรองใต้ขาเพื่อช่วยลดอาการบวม
- ออกกำลังกายเบา ๆ เป็นประจำ เช่น เดิน ว่ายน้ำ แอโรบิกในน้ำ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- ออกกำลังกายบริหารเท้าง่าย ๆ เช่น ยืดเหยียดเท้าขึ้นลง 30 ครั้ง หมุนเท้าเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาอย่างละ 8 ครั้ง
- นวดผ่อนคลาย นวดกดจุดตามฝ่ามือและฝ่าเท้า (reflexology) หรือประคบเย็นบริเวณที่บวม
- งดสูบบุหรี่ เพราะนอกจากอาจทำให้เกิดอาการบวมแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย