backup og meta

เลือดล้างหน้า คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงรัชตภา นาเวศภูติกร · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 18/09/2022

    เลือดล้างหน้า คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

    เลือดล้างหน้า หรือเลือดล้างหน้าเด็ก เป็นเลือดที่ออกมาจากทางช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอย มีลักษณะเป็นเลือดสีชมพูแต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน อาจมีอาการประมาณ 1-2 วัน มักเกิดขึ้นภายใน 10-14 วัน หลังจากจากไข่ผสมกับอสุจิแล้วปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนฝังตัวอยู่ในมดลูก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ โดยจะอยู่ที่ช่วงอายุครรภ์ประมาณ 4-5 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงตั้งครรภ์บางคนอาจไม่มีเลือดล้างหน้าเด็กปรากฏออกมาให้เห็นก็ได้เช่นกัน

    เลือดล้างหน้า เกิดจากอะไร 

    เลือดล้างหน้า หรือเลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding) หมายถึงเลือดที่ออกจากช่องคลอดหลังจากไข่ผสมกับอสุจิแล้วเกิดการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวอยู่ในมดลูก การฝังตัวของตัวอ่อนอาจทำให้หลอดเลือดฝอยในโพรงมดลูกแตก จนมีเลือดออกมาจากช่องคลอด อาการเลือดล้างหน้าถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์บางคนเท่านั้น โดยเลือดล้างหน้ามักจะเป็นเลือดสีชมพูจาง ๆ ออกมาจากช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอย มีปริมาณน้อยกว่าเลือดประจำเดือน และจะพบแค่ 1-2 วันเท่านั้น

    อาการของเลือดล้างหน้า 

    อาการของเลือดล้างหน้า หรือเลือดล้างหน้าเด็กโดยทั่วไป มีดังนี้ 

    • เลือดที่ออกจากช่องคลอดมีสีชมพูจาง ๆ หรือสีน้ำตาล ไม่เป็นสีแดงเข้มเหมือนเลือดประจำเดือน 
    • ปริมาณเลือดที่ออกมาไม่เยอะเหมือนเลือดประจำเดือน
    • อาจมีอาการนานประมาณ 1-2 วัน 

    นอกจากนี้ อาการเลือดล้างหน้ายังอาจเกิดพร้อมกับสัญญาณที่บ่งบอกการตั้งครรภ์อื่น ๆ เช่น  

    • เจ็บหรือคัดตึงเต้านม
    • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย 
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • วิงเวียนศีรษะ 
    • อารมณ์แปรปรวน
    • อยากอาหาร 
    • ถ่ายปัสสาวะบ่อย 

    สาเหตุอื่นที่อาจทำให้เลือดออกจากช่องคลอด 

    นอกเหนือจากเลือดล้างหน้าเด็กแล้ว อาการเลือดออกจากช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ ยังอาจเกิดจากสาเหตุและปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้ 

  • มีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด อาจทำให้ช่องคลอดฉีกขาด 
  • เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคพยาธิในช่องคลอด ช่องคลอดหรือปากมดลูกอักเสบ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอด
  • มดลูกทำงานผิดปกติ เช่น ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อที่ทำให้การผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนไม่สมดุล เมื่อมีเอสโตรเจนสูงกว่าปกติ อาจทำให้มดลูกหนาตัวขึ้น และส่งผลให้มีเลือดออกจากช่องคลอดได้ 
  • ตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจทำให้มีอาการเลือดออกจากช่องคลอดและเป็นตะคริว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อมารดาและทารกในครรภ์ หากมีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณท้องน้อย โดยมีอาการแบบปวดบีบเป็นช่วง ๆ ที่ท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง ร่วมกับมีอาการวิงเวียนศีรษะ ควรรีบไปพบคุณหมอ 
  • แท้งบุตร อาจมีอาการปวดเหมือนเป็นตะคริวบริเวณกระดูกเชิงกรานส่วนล่าง ปวดท้องอย่างรุนแรง และมีเลือดออกจากช่องคลอด การแท้งบุตรมักเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วง 12 สัปดาห์แรกหรือไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
  • หากไม่แน่ใจว่าเลือดที่ออกจากช่องคลอดเกิดจากสาเหตุใด ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยหาสาเหตุ หรือหากสงสัยว่าตั้งครรภ์อาจซื้อที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองมาทดสอบเบื้องต้น หรือเข้ารับการตรวจการตั้งครรภ์จากคุณหมอ

    ควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อมีเลือดล้างหน้า 

    สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อมีอาการเลือดล้างหน้า มีดังนี้

    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 
    • หลีกเลี่ยงการเดินเยอะ ๆ และการยกของหนัก
    • งดการมีเพศสัมพันธ์รุนแรง 
    • สังเกตว่าเลือดที่ออกมาจากช่องคลอดมีความผิดปกติหรือไม่ เช่น เป็นลิ่มเลือด มีเลือดออกมากหรือมีชิ้นเนื้อหลุดออกมาร่วมด้วย

    ควรไปพบคุณหมอเมื่อไร 

    เลือดล้างหน้าอาจหยุดเองภายใน 1-2 วัน จึงอาจไม่จำเป็นต้องรับการรักษาแต่อย่างใด แต่หากมีเลือดที่ลักษณะไม่ใช่เลือดประจำเดือนออกจากช่องคลอดนานเกิน 1-2 วัน มีเลือดออกในปริมาณมาก หรือมีอาการอื่นด้วยด้วย เช่น มีชิ้นเนื้อหลุดจากช่องคลอด ปวดท้อง ควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุทันที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงรัชตภา นาเวศภูติกร

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 18/09/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา