backup og meta

สัญญาณและอาการของโรคคาวาซากิ มีอะไรบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 08/11/2022

    สัญญาณและอาการของโรคคาวาซากิ มีอะไรบ้าง

    คุณพ่อคุณแม่อย่านิ่งนอนใจหากพบว่าลูกมีไข้สูงต่อเนื่องหลายวัน หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาการดังกล่าวอาจไม่ใช่อาการของไข้หวัดธรรมดา ยิ่งถ้ามีผื่นคัน และต่อมน้ำเหลืองที่คอโตด้วยแล้ว อาจถือเป็น สัญญาณและอาการของโรคคาวาซากิ ซึ่งหากเป็นแล้วควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการรักษาทันที

    โรคคาวาซากิ (Kawasaki’s Disease) ในเด็ก

    โรคคาวาซากิ (Kawasaki disease) เกิดจากการอักเสบในหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลืองของเยื่อบุผิวหนัง เมื่อเป็นโรคคาวาซากิจะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ มีไข้สูง ผื่นขึ้นตามผิวหนัง ในกรณีที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียน ร่วมด้วย ทั้งนี้ โรคคาวาซากิ พบบ่อยในเด็กที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 5 ปี  ที่อาศัยอยู่ในแถบทวีปเอเชีย

    สาเหตุของโรคคาวาซากิ

    ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคคาวาซากิ  โดยส่วนใหญ่เด็กมักป่วยเป็นโรคคาวาซากิในช่วงฤดูหนาว ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

    • อายุ พบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เนื่องจากภูมิคุ้มกันของเด็กในช่วงวัยนี้ยังไม่สมบูรณ์และแข็งแรงดีนัก จึงอาจติดเชื้อได้ง่าย
    • เพศ เด็กผู้ชายมีความเสี่ยงที่ติดเป็นโรคคาวาซากิมากกว่าเด็กผู้หญิง 1.5 เท่า เนื่องจากอาจชอบเล่นกลางแจ้ง และทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ อาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อจากวัตถุหรือพื้นผิวต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวได้มากกว่า
    • เชื้อชาติ โรคคาวาซากิพบมากในแถบเอเชีย

    สัญญาณและอาการของโรคคาวาซากิ

    อาการของโรคคาวาซากิ แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

    อาการของโรคคาวาซากิ : ระยะที่ 1

    • มีไข้สูง 39 องศาเซลเซียส ประมาณ 1-3 วัน
    • ตาบวมแดง
    • ริมฝีปากแห้งแตก
    • มีผื่นขึ้นที่ผิวหนังและในบริเวณอวัยวะเพศ
    • ฝ่ามือและเท้ามีอาการบวมแดง
    • ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต

    อาการของโรคคาวาซากิ : ระยะที่ 2

    • ผิวหนังบริเวณมือ เท้า ลอก
    • ปวดข้อ
    • ท้องร่วง
    • อาเจียน
    • ปวดท้อง

    อาการของโรคคาวาซากิ : ระยะที่ 3

    ในระยะที่ 3 อาการของโรคจะค่อย ๆ ทุเลาลงและอาการที่ดีขึ้น (อาจแสดงอาการอยู่ได้นานถึง 8 สัปดาห์ และผู้ป่วยบางรายอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหัวใจ)

    เมื่อไหร่ควรพบคุณหมอ

    หากพบลูกน้อยมีไข้สูงต่อเนื่องหลายวัน ควรพาไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาตามขั้นตอนที่เหมาะสม

    ในเบื้องต้นคุณหมอจะสอบถามประวัติและอาการ หากพบว่าเป็นโรคคาวาซากิ คุณหมอจะจ่ายยาบรรเทาอาการปวด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) หรือหากอาการรุนแรงอาจรักษาด้วยการฉีดอิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) เข้าหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและยังช่วยลดความเสี่ยงของเด็กที่เป็นโรคหัวใจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 08/11/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา