เด็กอายุ 30 เดือน มักมีพฤติกรรมที่คาดเดาได้ยาก เช่น กลายเป็นเด็กดื้อ ทั้งที่เคยเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ แต่เด็กวัยนี้ก็เริ่มใช้นิ้วมือได้ชำนาญขึ้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงอาจฝึกกล้ามเนื้อมือไปพร้อม ๆ กับพัฒนาการทางความคิดและจินตนาการได้ด้วยการวาดรูป ทั้งนี้ หากสังเกตพบว่าเด็กอายุ 30 เดือนมีพัฒนาการผิดปกติ ควรรีบพาไปพบคุณหมอทันที
การเจริญเติบโตและพฤติกรรมของ เด็กอายุ 30 เดือน
ลูกน้อยควรจะต้องทำอะไรได้บ้าง
คุณคงคาดเดาพฤติกรรมของ ลูกน้อยวัย 30 เดือน ในเวลานี้ไม่ได้สักเท่าไหร่ เช่น เด็กน้อยที่เคยนอนกรนตลอดคืนจะเริ่มลุกขึ้นมาตอนตี 3 หรือลูกน้อยที่เคยเชื่อฟังมาตลอด ก็กลายเป็นเด็กที่ชอบเหวี่ยงวีน ดื้อ และไม่สามารถควบคุมได้ และจู่ ๆ ลูกน้อยที่เพิ่งถูกฝึกให้เข้าห้องน้ำก็ซุ่มซ่ามจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเสียนี่
เด็กก่อนวัยเรียนมีตาและหูที่เก็บรายละเอียดได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ ให้เขาต้องเรียนรู้มากมาย เขาถูกปรับให้เข้ากับเสียง สีสัน ขนาด และการเคลื่อนไหว ที่คุณอาจจะปรับแบบเขาไม่ได้ ฉะนั้นไม่ประหลาดใจล่ะถ้าได้ยินเขาอ้างถึง “แมวตัวนั้นที่ร้องเหมียว ๆ” หรือ “รองเท้าสีฟ้าของหนู”
ในไม่ช้าคุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านการขีดเขียน เมื่อเจ้าตัวเล็กเรียนรู้ที่จะทำเครื่องหมายบนกระดาษ (ในวัยประมาณ 12-15 เดือน) ซึ่งเขาสามารถคว้าสีเทียนไปขีดเป็นเส้นตรงและเส้นเกลียวได้ด้วยการตวัดข้อมือไปมา เมื่อถึงวัยประมาณ 2 ขวบครึ่ง นิ้วมือของเขาจะพัฒนาจนเกิดความชำนาญ ตอนนี้เขาสามารถจับสีเทียนด้วยนิ้วโป้งและนิ้วอื่น ๆ ซึ่งทำให้เขาควบคุมได้ดีขึ้น และรูปทรงคุ้น ๆ ก็จะเริ่มปรากฏขึ้นบนกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นคน ต้นไม้ หรือบ้าน
ลูกน้อยควรเตรียมตัวอย่างไร
กลั้นหัวเราะเอาไว้ให้ดีเวลาที่ลูกออกเสียงผิดหรือทำอะไรผิด แทนที่จะไปแก้ไขตรง ๆ คุณก็อาจใช้วิธีพูดคำที่ถูกต้องออกไปจะดีกว่า โดยไม่ต้องไปวิจารณ์ว่าออกเสียงแตกต่างกันยังไง จากนั้นก็ตรงไปที่สมุดบันทึกเล่มพิเศษ แล้วจดคำพูดที่เป็นอมตะคำนั้นไว้ คุณจะได้ไม่มีวันลืม
คุณอาจกำลังเรียนรู้อยู่ก็ได้ว่าฝึกวินัยแบบไหนถึงจะเวิร์คกับคุณมากที่สุด ซึ่งนี่คือหนึ่งในสิ่งที่คุณไม่ควรทำ อย่าลงโทษลูกน้อยด้วยการพรากข้าวของสุดรักของเขาไป ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาหมี ตุ๊กตา หรือสิ่งของที่เขารัก วิธีนี้จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบายอกสบายใจ ไม่ว่าคุณจะโกรธเขาขนาดไหน หรือต้องการสั่งสอนเขายังไงก็ตาม ก็อย่าเข้าไปยุ่งกับข้าวของสุดรักของลูกน้อยเด็ดขาด
ให้โอกาสลูกน้อยได้ใช้วัสดุและอุปกรณ์ทางศิลปะเยอะ ๆ จัดเตรียมให้เขาหลาย ๆ แบบ เช่น ดินสอเทียนแท่งอ้วน ๆ ปากกาแท่งใหญ่ ๆ รวมทั้งดินสอสี ปากกาที่สามารถลบได้ สีชอล์ค สีน้ำ และดินน้ำมัน อย่ายึดติดว่าต้องอย่างโน้นต้องอย่างนี้ถึงจะเป็นศิลปะ สิ่งสำคัญอยู่ที่ลูกน้อยจะใช้ข้าวของพวกนั้นในการสร้างสมาธิยังไงมากกว่า
สุขภาพและความปลอดภัยของ เด็กอายุ 30 เดือน
จะเกิดอะไรกับลูกน้อยเวลาไปพบคุณหมอ
คุณไม่ควรเปรียบเทียบลูกน้อยของคุณกับเพื่อนของเขา เนื่องจากเด็กแต่ละคนเติบโตแตกต่างกัน ถ้าเขาเรียนรู้คำศัพท์ ความชำนาญ และอะไรใหม่ ๆ เป็นประจำ ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าพัฒนาการของเขาดูเหมือนหยุดชะงักหรือถดถอย ก็ควรพูดคุยกับคุณหมอ เพื่อดูว่าต้องเข้าไปแทรกแซงอะไรหรือเปล่า ซึ่งยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ควรปรึกษาคุณหมออย่างไร
พาลูกน้อยของคุณไปพบคุณหมอทันที ถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการผิดปกติของเขา ทำการตรวจเลือดตรวจหาความเสี่ยงของโรคโลหิตจาง หรือพิษจากสารตะกั่ว
สิ่งที่ต้องคาดหวัง
ต้องกังวลในเรื่องใด
เจ้ากระต่ายน้อยทรงพลังของคุณควรเดิน วิ่ง หรือป่ายปีนได้แล้ว แต่เมื่อพูดถึงทักษะการพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่มัดเล็กนั้น ก็มีเกณฑ์ในการวัดความปกติได้ค่อนข้างกว้าง เช่น เขาสามารถทรงตัวด้วยการยืนขาเดียว กระโดดไปข้างหน้า และโยนลูกบอล และ แต่ถ้าลูกน้อยของคุณไม่ทำสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาได้ ก็ควรตรวจเช็กกับคุณหมอดูว่า เขาสามารถเคลื่อนไหวข้ามสิ่งกีดขวางได้ไหม หรือหกล้มบ่อย ๆ หรือเปล่า (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย 3 ขวบ)
[embed-health-tool-vaccination-tool]