backup og meta

เด็กฟันผุ สาเหตุ และการป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 26/09/2021

    เด็กฟันผุ สาเหตุ และการป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

    เด็กฟันผุ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากแบคทีเรีย หรือคราบจุลินทรีย์ ทำปฏิกิริยากับน้ำตาลจากอาหารและเครื่องดื่ม กลายเป็นกรดที่กัดกร่อนสารเคลือบฟันชั้นนอกลึกถึงฟันชั้นใน จนนำไปสู่อาการฟันผุ

    สาเหตุที่ทำให้ เด็กฟันผุ

    สาเหตุที่ทำให้เด็กฟันผุ คือการก่อตัวของแบคทีเรีย โดยเกิดขึ้นจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ลูกอม เค้ก ซีเรียล ขนมปัง นม โซดา น้ำผลไม้ ที่ก่อให้เกิดน้ำตาลติดอยู่ตามพื้นผิวฟันและซอกฟัน ซึ่งแบคทีเรีย อาหาร และน้ำลาย ที่อยู่ในช่องปากทั้งหมดจะทำปฏิกิริยากันจนเกิดเป็นกรด หรือคราบพลัคเกาะติดกับฟัน หากปล่อยไว้นาน แบคทีเรียจะค่อย ๆ กัดกร่อนสารเคลือบฟันที่ทำหน้าที่ปกป้องฟันชั้นต่าง ๆ และก่อให้เกิดฟันผุได้ในที่สุด

    อาการเด็กฟันผุ

    ฟันผุในเด็กระยะแรกอาจไม่แสดงอาการใด ๆ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำจึงจะทราบได้ว่าเด็กฟันผุ แต่หากแบคทีเรียกัดกร่อนชั้นฟันมากขึ้น อาจก่อให้เกิดอาการที่สังเกตได้ ดังต่อไปนี้

    • มีจุดสีขาวบริเวณฟัน เนื่องจากสารเคลือบฟันถูกกัดกร่อน และอาจทำให้เด็กเสียวฟันได้
    • มีรูสีน้ำตาลอ่อนบนฟัน หากรูลึกขึ้น จะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลอ่อนเป็นน้ำตาลเข้ม และสีดำ ตามลำดับ
    • ปวดบริเวณรอบฟัน
    • เสียวฟันเมื่อรับประทานอาหาร เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่มร้อน เครื่องดื่มเย็น

    ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เด็กฟันผุ

    เด็กทุกคนมีแบคทีเรียในช่องปาก จึงทำให้เสี่ยงฟันผุได้ทุกคน แต่ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ อาจส่งผลให้เด็กฟันผุได้ไวขึ้น

    • รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
    • รับประทานของว่างระหว่างวัน เนื่องจากกรดที่ทำร้ายฟันสามารถอยู่ได้นาน 1 ชั่วโมง การเพิ่มของว่างอาจเป็นการทำให้แบคทีเรียทำปฏิกิริยา และสร้างกรดทำลายพื้นผิวฟันอย่างต่อเนื่อง
    • แปรงฟันไม่ครบตามเกณฑ์ที่แนะนำ ปกติแล้วเด็กควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน
    • ใช้ยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์
    • ไม่พาเด็กเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ

    เด็กฟันผุ รักษาอย่างไร

    การรักษาฟันผุขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเด็ก และอาการฟันผุที่เด็กเป็น โดยวิธีรักษาฟันผุในเด็กที่คุณหมอนิยมใช้ มีอยู่ 3 วิธี ดังนี้

    1. การอุดฟัน เป็นการใช้วัสดุ เช่น อะคริลิก เรซิน โลหะ เติมเต็มลงในรูฟันผุ
    2. การเคลือบฟัน คุณหมออาจใช้เทคนิคอินเลย์ ออนเลย์ วีเนียร์ และเลือกใช้วัสดุสำหรับสร้างฟันให้ดูเหมือนฟันจริง เช่น เซรามิก คอมโพสิต นำมายึดติดกับฟันเดิม เพื่อต่อเติมโพรงฟัน
    3. การถอนฟัน วิธีนี้อาจใช้สำหรับภาวะฟันผุที่รุนแรงจนรักษาด้วยการอุดฟันไม่ได้

    การป้องกันเด็กฟันผุ

    คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยป้องกันอาการฟันผุให้ลูกได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    • ฝึกสุขอนามัยให้เด็ก สอนให้เด็กแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ประกอบด้วยฟลูออไรด์ ทำความสะอาดลิ้นและเหงือกอย่างถูกวิธี วันละ 2 ครั้ง สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ให้ใช้ยาสีฟันปริมาณเท่าเมล็ดข้าว เมื่อเด็กอายุครบ 3 ขวบจึงปรับให้ใช้ยาสีฟันปริมาณเท่าเมล็ดถั่ว และควรใช้ไหมขัดฟันทุกวันในเด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไป
    • ป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรีย คุณพ่อคุณแม่ควรระวังไม่ให้ลูกใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารร่วมกับบุคคลอื่น ๆ
    • หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่างน้ำผลไม้ ลูกอม วิตามิน เพราะอาจทำให้เด็กเสี่ยงฟันผุได้ หากเลี่ยงได้ยาก คุณพ่อคุณแม่ควรกำชับให้เด็กแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทาน เพื่อขจัดคราบน้ำตาลตามผิวฟัน และซอกฟัน
    • พาเด็กเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปาก การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน อาจทำให้ทราบถึงว่าเด็กมีปัญหาช่องปาก เช่น ฟันผุ หรือไม่ และสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    เนตรนภา ปะวะคัง


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 26/09/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา