จากผลการทดลอง นักวิจัยพบว่า น้ำอสุจิที่เก็บในแต่ละวัน มีปริมาณที่ลดลงเรื่อย ๆ แต่มีระดับตัวชี้วัดคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นของน้ำอสุจิ การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ หรือลักษณะของตัวอสุจิ ที่ไม่แตกต่างกัน
ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า การหลั่งอสุจิทุกวัน อาจไม่ส่งผลต่อคุณภาพของตัวอสุจิ
ขณะเดียวกัน ในกรณีของผู้หญิง การช่วยตัวเองไม่ส่งผลใด ๆ ต่อระบบสืบพันธุ์ อย่างการตกไข่หรือการฝังตัวของไข่กับผนังมดลูกหลังปฏิสนธิ ดังนั้น การช่วยตัวเองบ่อย ๆ จึงไม่ทำให้เป็นหมัน หรือไม่ได้ทำให้มีลูกยากขึ้น
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ ช่วยตัวเองบ่อย ๆ
นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างการช่วยตัวเองกับจำนวนอสุจิ รวมทั้งความสามารถในการมีบุตร ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการช่วยตัวเองอื่น ๆ อีก เช่น
- การช่วยตัวเองทำให้ความต้องการทางเพศน้อยลงและลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ความจริงแล้ว การช่วยตัวเอง ไม่มีผลต่อความต้องการทางเพศ รวมถึงระดับเทสโทสเตอโรน ซึ่งสัมพันธ์กับความต้องการและสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย เพราะระดับฮอร์โมนเพศเทสโทสเตอโรนถูกควบคุมโดยต่อมใต้สมอง ไม่เกี่ยวข้องกับการช่วยตัวเอง
- การช่วยตัวเองทำให้ความสุขในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนลดลง ความจริงแล้ว การช่วยตัวเองถือเป็นการสำรวจตัวเองว่าชอบถูกกระตุ้นหรือเร้าอารมณ์ทางเพศบริเวณไหนและอย่างไร ถือว่าเป็นข้อดีเพราะจะทำให้สามารถบอกคู่ของตนเองว่าควรร่วมเพศด้วยท่าทางแบบใดและมีโอกาสถึงจุดสุดยอดได้ดีขึ้น
- การช่วยตัวเองเป็นเรื่องน่าละอายหรือเป็นเรื่องผิดปกติ ความจริงแล้ว การช่วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ เป็นการสร้างความสุขและความพึงพอใจให้ตัวเอง
- การช่วยตัวเองสามารถทำเท่าไรก็ได้ แม้จะยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับจำนวนครั้งหรือความถี่ที่เหมาะสมในการช่วยตัวเอง แต่การช่วยตัวเองบ่อยเกินไป โดยทำไม่ถูกวิธี รุนแรงเกินไป หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดร่วมด้วย อาจทำให้อวัยวะเพศระคายเคือง บาดเจ็บ หรือติดเชื้อได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย