backup og meta

ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน ใช้อย่างไร อันตรายหรือไม่

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 28/03/2024

    ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน ใช้อย่างไร อันตรายหรือไม่

    การท้องไม่พร้อม เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ บางคนอาจตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ หรืออาจหาซื้อ ยายุติการตั้งครรภ์ มากินเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรืออาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ และศึกษาข้อมูลของยายุติการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม

    ข้อกำหนด “ยุติการตั้งครรภ์” ในหญิงอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์

    จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้มีการยุติการตั้งครรภ์ ในหญิงที่มีอายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ โดยมาตรา 305(5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้หญิง ซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ที่ประสงค์จะยุติการตั้งครรภ์ต้องได้รับการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ก่อนตัดสินใจยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ เนื่องจากการยุติการตั้งครรภ์ ควรตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วน และรอบด้าน

    วิธีการยุติการตั้งครรภ์

    ช่วงของอายุครรภ์มีความสำคัญต่อการเลือกวิธียุติการตั้งครรภ์ที่แตกต่างกัน เช่น

    • อายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ : ใช้ยายุติการตั้งครรภ์ หรือแพทย์จะใช้เครื่องดูดสุญญากาศ มีลักษณะเป็นกระบอก โดยใส่หลอดดูดเข้าไปในโพรงมดลูก
    • อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ : ใช้ยายุติการตั้งครรภ์ ปริมาณหรือขนาดของยายุติการตั้งครรภ์จะน้อยลงตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้น โดยกำหนดช่วงห่างของการใช้ตามพัฒนาการของอาการและอายุครรภ์ ภายใต้ความควบคุมและดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด

    ยายุติการตั้งครรภ์ คืออะไร

    ยายุติการตั้งครรภ์ ตัวยาจะช่วยหยุดการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ เข้าขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนตัวสำคัญที่ชื่อว่า ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิจึงไม่สามารถฝังตัวในผนังมดลูก ส่งผลให้มดลูกเกิดการบีบตัวและขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก

    ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน คือตัวไหน

    องค์การอนามัยโลกยอมรับและขึ้นทะเบียนตัวยา 2 ชนิด ในประเทศไทย ได้แก่

    1. ยาไมเฟพริสโตน (Mifepristone) : ยาไมเฟพริสโตน 200 มิลลิกรัม 1 เม็ด เป็นยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน วิธีใช้คือ กินตัวยาแล้วดื่มน้ำตาม  ทำให้เกิดการแท้งตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์ ตัวยาไมเฟพริสโตนจะเข้าไปขัดขวางฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ มักใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol) 
    2. ยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol) : ยาไมโซพรอสทอล 800  ไมโครกรัม หรือขนาด 200 ไมโครกรัม 4 เม็ด จะใช้หลังจากใช้ยาไมเฟพริสโตนแล้ว ตัวยาทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูก ช่วยขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก เป็นยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน เช่นกัน แต่ไม่ใช่การกลืนทันที การใช้ยาชนิดนี้ต้องอมไว้ใต้ลิ้นห้ามกลืน หรืออมในกระพุ้งแก้ม รอให้ยาละลายหมดแล้วค่อยกลืน และดื่มน้ำตาม หรือใช้ยาในการเหน็บช่องคลอด ตัวยายังป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารเป็นแผลขณะที่ใช้ยาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน และนาพรอกเซน ซึ่งเป็นยาที่ควรกินเพื่อระงับการปวด

    ยาทั้ง 2 ตัวนี้เป็นยาควบคุมพิเศษ ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยตัวยาอาจส่งผลข้างเคียง เช่น

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • วิงเวียนศีรษะ 
  • ปวดหัว 
  • ท้องเสีย 
  • มีเลือดออกทางช่องคลอด
  • หากอาการข้างเคียงเกิน 24 ชั่วโมง หรือมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียส ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว เป็นลม เกิดภาวะขาดน้ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ให้รีบปรึกษาแพทย์

    ข้อควรระวังก่อนใช้ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน

    1. ผู้มีโรคประจำตัวหรือสุขภาพไม่แข็งแรงควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด เช่น ต่อมหมวกไตวายเรื้อรัง เป็นโรคหอบหืดอย่างรุนแรงไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา หรือเป็นโรค Inherited Porphyria  
    2. มีประวัติแพ้หรือไวต่อยา 2 ชนิดนี้
    3. มีประวัติการแพ้ยาในกลุ่ม Prostaglandins
    4. เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์นอกมดลูก

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 28/03/2024

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา