backup og meta

ครีมกันแดดผู้ชาย ควรเลือกอย่างไร จึงจะเหมาะสม

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงเกศอร ป้องอาณา · โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 17/03/2023

    ครีมกันแดดผู้ชาย ควรเลือกอย่างไร จึงจะเหมาะสม

    ครีมกันแดดผู้ชาย ควรเลือกซื้อครีมที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และสามารถปกป้องผิวหนังจากรังสียูวีเอ (Ultraviolet A หรือ UVA) ได้ โดยพิจารณาจากจำนวนเครื่องหมาย + หลังค่า PA ที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ สำหรับผู้ชายที่มีผิวมัน ควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่าปราศจากน้ำมัน เพื่อป้องกันผิวมันกว่าเดิมหลังทาครีมกันแดด และลดความเสี่ยงเป็นสิว

    ครีมกันแดดผู้ชาย ต่างจากครีมกันแดดผู้หญิงหรือไม่

    แม้ผิวหนังของผู้ชายมักหนาและมันกว่าผู้หญิง แต่ในเชิงโครงสร้างของผิวหนังนั้นไม่ต่างกัน ดังนั้น ครีมกันแดดผู้ชาย รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ อย่างแชมพูหรือครีมบำรุงผิวสำหรับผู้ชาย จึงมีคุณสมบัติไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันสำหรับผู้หญิง

    ครีมกันแดดผู้ชาย ควรเลือกอย่างไร

    ครีมกันแดดผู้ชาย มีข้อควรคำนึงในการเลือกซื้อดังต่อไปนี้

    • ควรมีค่า SPF 50 ขึ้นไป โดย SPF (Sun Protection Factor) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันผิวไหม้หรือผิวเสียหายเนื่องจากรังสียูวีบี (Ultraviolet B หรือ UVB) ในแสงแดด ปกติแล้ว ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงจะป้องกันผิวหนังไม่ให้เสียหายจากรังสียูวีบีได้นานกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า ทั้งนี้ คนไทยควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และผู้ที่มีผิวสีอ่อน ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่าผู้ที่ผิวสีเข้ม เพราะผู้ที่มีผิวสีอ่อนจะมีเมลานิน (Melanin) หรือเม็ดสีผิวน้อยกว่าผิวสีเข้ม จึงมักได้รับความเสียหายหรือไหม้จากรังสียูวีบีได้ง่ายกว่า
    • ป้องกันรังสียูวีเอได้ ยูวีเอเป็นรังสีที่พบได้ในแสงแดดและแสงจากหลอดไฟ โดยมีคุณสมบัติช่วยสร้างวิตามินดีในร่างกาย อย่างไรก็ตาม การเผชิญกับรังสียูวีเอมากเกินไปอาจก่อให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย และโรคมะเร็ง ดังนั้น ในการเลือกครีมกันแดด จึงควรเลือกครีมที่ค่า PA (Protection Grade of UVA) มีเครื่องหมาย + ตามหลังมาก เช่น PA++++ เพราะหมายถึงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันรังสียูวีเอ
    • มีส่วนประกอบเหมาะกับสภาพผิว ผู้ที่มีผิวมันควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่าปราศจากน้ำมัน (Oil Free) เพื่อป้องกันผิวมันกว่าเดิมหลังทาครีมและลดความเสี่ยงเป็นสิว ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองอย่างแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารกันเสีย เช่น โพรพิลีน ไกลคอล (Propylene Glycol) พาราเบน (Paraben)
    • กันน้ำและกันเหงื่อได้ ปกติแล้ว ครีมกันแดดมักหลุดลอกจากผิวหนังเมื่อโดนน้ำหรือเหงื่อออก ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อครีมกันแดดแบบกันน้ำเพื่อช่วยให้ครีมติดทนนาน ช่วยให้กันแดดได้นานขึ้น
    • เนื้อครีมกันแดดไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด ปัจจุบัน เนื้อครีมกันแดดในท้องตลาดมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบครีม เจล โลชั่น และสเปรย์ ซึ่งไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกันแดด แต่อาจเลือกเนื้อครีมให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวมันอาจหลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อครีมเพื่อป้องกันความมันส่วนเกินและป้องกันการเกิดสิว

    คำแนะนำในการทาครีมกันแดดผู้ชาย

    การทาครีมกันแดดเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการปกป้องผิว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

    1. ควรทาครีมกันแดดก่อนเผชิญกับแสงแดดประมาณ 15-30 นาที
    2. ในการทาครีมกันแดด 1 ครั้งให้ทั่วร่างกาย ควรใช้ครีมประมาณ 1 ออนซ์ หรือเท่า ๆ กับแก้วช็อต 1 แก้ว
    3. ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพราะการทาครีมกันแดด 1 ครั้ง ไม่สามารถปกป้องผิวหนังได้ตลอดระยะเวลาที่ต้องเผชิญแสงแดด
    4. ควรทาครีมกันแดดซ้ำโดยเฉพาะในบริเวณที่เหงื่อออกมากเพื่อป้องกันเนื้อครีมหลุดลอกออกจนหมด เสื่อมประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด

    อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผิวไหม้หลังเผชิญกับแสงแดด ควรอาบน้ำเย็น ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ว่านหางจระเข้ และทายาคอร์ติโคสเตียรอยด์ลดการอักเสบของผิวหนัง กรณีที่ผิวหนังไหม้แดด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงเกศอร ป้องอาณา

    โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 17/03/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา