backup og meta

สิวหัวหนอง อาการ สาเหตุ การรักษา

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย · โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 17/08/2023

    สิวหัวหนอง อาการ สาเหตุ การรักษา

    สิวหัวหนอง เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน น้ำมัน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว  โดยข้างในของสิวจะมีหนอง เป็นของเหลวสีขาวขุ่น สามารถพบได้บริเวณใบหน้า หน้าอกส่วนบน หลัง สิวหัวหนองมีขนาดใหญ่กว่าสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำ ทำให้ยากต่อการปกปิด ควรทำการรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการอักเสบและการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ 

     

    สิวหัวหนอง คืออะไร 

    สิวหัวหนอง คือ สิวอักเสบชนิดหนึ่งที่มีหนองอยู่ข้างใน มีขนาดใหญ่กว่าสิวอุดตัน สิวหัวขาว และสิวหัวดำ ลักษณะของสิวหัวหนองจะเป็นตุ่มที่มีหนองสีขาวอยู่ตรงหัวสิว บวมแดงตรงฐานสิว โดยสิวหัวหนองเกิดจากรูขุมขนอุดตันไปด้วยน้ำมัน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อเกิดการอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกาย (เม็ดเลือดขาว) จะถูกกระตุ้นในบริเวณนั้น จนทำให้เกิดเป็นหนองขึ้น มักปรากฏบริเวณใบหน้า หน้าอกส่วนบน หลัง ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย สิวหัวหนองเป็นสิวที่ไม่ควรบีบ เพราะอาจทำให้สิวแย่ลงหรืออาจเกิดการติดเชื้อได้ เมื่อการอักเสบของสิวเริ่มดีขึ้น สิวหัวหนองอาจจะค่อย ๆ ยุบลง

    อาการของสิวหัวหนอง

    สิวหัวหนองส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้ เช่น 

    • อักเสบ 
    • บวม แดงรอบฐานสิว
    • เจ็บ หรือคัน 
    • มีหนอง

    หากสิวหัวหนองมีการอักเสบและมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงอาจมีไข้ควรไปปรึกษาคุณหมอด้านผิวหนัง เพื่อรับคำปรึกษาและเข้ารับการรักษาไม่ให้อาการหนักขึ้น 

    สาเหตุของสิวหัวหนอง 

    สิวหัวหนองอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น 

    • ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน เทสโทสเทอโรน เอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น อาจไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวได้
    • รูขุมขนอุดตัน หากร่างกายมีการผลิตเหงื่อหรือไขมันมากเกิน อาจทำให้ไขมันไปสะสมที่รูขุมขนและเกิดการอุดตัน จนกลายเป็นสิวหัวหนองได้ 
    • ยาบางชนิด เช่น กลุ่มยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ลิเทียม

    วิธีรักษาสิวหัวหนอง 

    การรักษาสิวหัวหนองอาจมีหลายวิธี ดังต่อไปนี้ 

    • ยาทาเฉพาะที่ ที่มีส่วนผสมในการรักษาสิว เช่น 
  • กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่อาจช่วยลดการอักเสบและบวมของสิว 
  • เรตินอยด์ (Retinoid) อาจช่วยลดความมันบนใบหน้า ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ
  • เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) อาจช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ 
  • คลินดามัยซิน (Clindamycin) อาจช่วยรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียได้
  • ยาชนิดรับประทาน เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สมดุล และอาจช่วยควบคุมการผลิตฮอร์โมนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไขมันในร่างกาย
  • บำบัดด้วยโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy หรือ PDT) เป็นการใช้แสงเลเซอร์ร่วมกับสารเคมีที่ไวต่อแสง เพื่อลดขนาดต่อมไขมันใต้ผิวหนัง และอาจช่วยลดการผลิตน้ำมันภายในรูขุมขน ซึ่งอาจทำให้สิวหัวหนองยุบลง  
  • การป้องกันสิวหัวหนอง 

    วิธีการป้องกันการเกิดของสิวหัวหนอง อาจสามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 

    • ลดอาหารประเภทของมัน ของทอด อาจช่วยลดสิวได้ในผู้ป่วยบางราย
    • รักษาทำความสะอาดร่างกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหลังจากทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดเหงื่อ ด้วยสบู่อ่อน ๆ เพื่อชะล้างแบคทีเรียที่อาจเป็นต้นกำเนิดทำให้เกิดสิว
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า และควรล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าก่อนเข้านอนทุกครั้ง เพื่อลดปัจจัยที่จะทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน 
    • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หากจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือครีมกันแดดควรดูฉลากผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน และเหมาะสมกับสภาพผิว
    • ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม รวมถึงผ้าเช็ดตัวที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียอยู่เสมอ อย่างน้อยทุก ๆ  1-2 สัปดาห์ 

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย

    โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 17/08/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา