หน้าแห้งทำไงดี สาเหตุและวิธีการดูแลผิว

หน้าแห้งทำไงดี อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เนื่องจากภาวะหน้าแห้ง เป็นปัญหาผิวที่พบได้ทั่วไป ภาวะนี้อาจทำให้มีอาการหน้าแห้ง ลอกเป็นขุย อาจมีผื่นแดง เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกว่าผิวสาก ไม่เรียบเนียน และขาดความชุ่มชื้น ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในร่างกาย เช่น อายุ ปัญหาสุขภาพ และปัจจัยภายนอกร่างกาย เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว การสูบบุหรี่ การทราบสาเหตุที่ทำให้หน้าแห้ง และการศึกษาวิธีการดูแลผิวอย่างถูกวิธี อาจช่วยบรรเทาและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหน้าแห้งได้

สาเหตุของภาวะหน้าแห้ง

ภาวะหน้าแห้ง อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

ปัจจัยภายในร่างกาย

ปัจจัยภายนอกร่างกาย

• ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและผิว เช่น สบู่ แชมพู โฟมหรือครีมล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือมีคุณสมบัติลดความมัน อาจชะล้างไขมันหรือซีบัมที่ผิวหนัง ซึ่งมีหน้าที่คอยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวออกมากเกินไป จนทำให้ผิวหน้าแห้ง
• การอาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่น หากอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่นนาน ๆ เป็นประจำ ก็อาจทำให้ผิวหน้าแห้งได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำอุ่นจะทำลายไขมันเคลือบผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
• การขัดผิวหน้า แม้การใช้สครับขัดผิวหน้า อาจช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ แต่การขัดถูผิวหน้าแรง ๆ ก็อาจทำให้ผิวหน้าถูกเสียดสีจนระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื้น จนส่งผลให้หน้าแห้งได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง
• การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ ในสระว่ายน้ำมักมีสารคลอรีนซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้อโรค นิยมใช้เพื่อทำให้น้ำในสระใสสะอาด แต่ข้อเสียของคลอรีนก็คือ อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น จนผิวหน้าระคายเคืองและแห้งได้ง่าย
• สภาพอากาศ ในฤดูหนาว อากาศมักแห้ง และมีความชื้นในอากาศน้อย ทำให้น้ำในผิวหนังระเหยง่ายขึ้น ผิวจึงสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ ทำให้หน้าแห้ง หรือลอกเป็นขุยได้
• การสูบบุหรี่ สารเคมีต่าง ๆ ในบุหรี่ เช่น นิโคติน (Nicotine) คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ทาร์ (Tar) อาจทำให้เส้นเลือดหดตัวจนเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงผิวหนังได้ไม่ดีนัก ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหน้าและปากแห้งแตก ผิวหนังแก่ก่อนวัย

หน้าแห้งทำไงดี

วิธีดังต่อไปนี้ อาจช่วยบรรเทาอาการผิวหน้าแห้ง และช่วยป้องกันการเกิดปัญหาผิวหน้าแห้งได้

• ทาผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่รู้สึกว่าผิวหน้าแห้ง ลอก หรือเป็นขุย วิธีเบื้องต้น คือ หลังล้างหน้าแล้ว ควรเช็ดหน้าให้หมาด ๆ จากนั้นทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมในการฟื้นบำรุงและรักษาผิวแห้ง เช่น ยูเรีย (Urea) เซราไมด์ (Ceramides) กรดไขมัน (Fatty acids) กลีเซอรีน (Glycerin) เชียบัตเตอร์ (Shea butter) เนยโกโก้ (Cocoa butter) และมีส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดสิว (Non-Comedogenic) ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หลีกเลี่ยงการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และสารโซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งทำให้ผิวแห้งตึง
• ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน 2 ครั้ง/วัน ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวชนิดไม่มีโฟมหรือโฟมน้อย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของกรดสเตียริก (Stearic Acid) ที่พบในเซียบัตเตอร์ หรือมีส่วนผสมของกรดลิโนเลอิก (Linoleic acid) ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้า หลังล้างหน้า ควรซับหน้าเบา ๆ ให้พอหมาด ๆ แล้วบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น หากมีผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดในช่วงเช้าหรือระหว่างวัน และล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสำหรับสภาพผิวในตอนเย็น 1 ครั้ง
• ดูแลผิวหน้าเมื่อเกิดอาการคัน หากผิวหน้าแห้ง แตก หรือลอกเป็นขุย จนทำให้เกิดอาการคัน อาจบรรเทาอาการด้วยการทายาสเตียรอยด์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซน 1% ทั้งนี้ ควรขอคำแนะนำเกี่ยวกับยาจากแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกร เพื่อจะได้เลือกใช้ยาได้เหมาะสมกับสภาพผิวที่สุด
• ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ หากอากาศหนาวและแห้งเกินไป อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากจนส่งผลให้ผิวแห้งได้ ในกรณีนี้ อาจใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ หรือที่เรียกกันว่าเครื่องพ่นความชื้น มาเพิ่มความชุ่มชื้นภายในบ้าน เพื่อช่วยให้ผิวหน้าไม่แห้งตึงจนเกินไป