ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease – GERD) ถือเป็นโรคในระบบทางเดินอาหารที่ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารตอนล่าง คนจำนวนมากต้องเผชิญกับโรคกรดไหลย้อน รวมถึงในหญิงตั้งครรภ์ ความจริงแล้ว โรคกรดไหลย้อน คือ ภาวะผิดปกติในทางเดินอาหารที่พบได้ทั่วไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแสบหน้าอกและจุกเสียด
กรดไหลย้อน เกิดจากน้ำย่อยจากในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาเข้าสู่หลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดความรู้สึกอึดอัด และอาจทำให้เยื่อเมือกของหลอดอาหารเกิดการบาดเจ็บ รวมทั้งกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารตอนล่างได้รับความเสียหาย เมื่อกล้ามเนื้อหูรูดไม่ได้ปิดอย่างที่ควรจะเป็น น้ำย่อยจึงไหลซึมย้อนกลับออกจากกระเพาะอาหารขึ้นสู่หลอดอาหาร
หากท่านใดมีอาการก็ควรไปพบคุณหมอ หรือเข้ารับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีอาการอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรืออาการจากกรดไหลย้อนส่งผล กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
โรคกรดไหลย้อนสามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ และรักษาได้ด้วยยาสามัญประจำบ้านบางชนิด แต่ในบางครั้ง อาจจำเป็นต้องใช้ยาที่แรงขึ้น รวมถึงอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อบรรเทาอาการ
สาเหตุหลักของโรคกรดไหลย้อน คือ การที่น้ำย่อยหรือน้ำดีรั่วซึมเข้าสู่หลอดอาหาร
โดยทั่วไป อาหารและน้ำจะไหลลงเข้าสู่กระเพาะ เมื่อคนเรากลืนอาหาร กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารตอนล่างบริเวณส่วนปลายของหลอดอาหาร จะคลายตัวเพื่อปล่อยอาหารลงสู่กระเพาะ หลังจากนั้นมันจะปิดตัว
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าตัวลิ้นปิดเปิดมีความผิดปกติหรือมีความอ่อนแอ ก็จะทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับขึ้นมาสู่หลอดอาหารได้ นี่คือภาวะที่มาของชื่อโรคกรดไหลย้อน เมื่อเกิดอาการกรดไหลย้อนขึ้นซ้ำๆ ก็อาจนำมาสู่อาการของโรคระบบทางเดินอาหารชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย
ปัจจัยความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน ประกอบด้วย
คุณอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้
คุณหมอจะดูอาการขั้นพื้นฐานเพื่อวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือไม่ การตรวจบางวิธีดังต่อไปนี้ อาจต้องทำเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค
หลายท่านรักษาโรคกรดไหลย้อนด้วยการซื้อยามารับประทานเองที่บ้าน ได้แก่
ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดถ้าอาการแย่ลงและการรับทานยาไม่ได้ผล
โรคกรดไหลย้อนสามารถจัดการได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม โดยผู้ป่วยสามารถพิจารณาลองใช้วิธีดังต่อไปนี้ เพื่อบรรเทาอาการของตนเอง
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย