ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล
รองช้ำ หมายถึงอาการเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ ทำให้เกิดอาการเจ็บบริเวณฝ่าเท้าและส้นเท้า โดยเฉพาะเวลาลุกขึ้น หรือเวลาเดิน อาจเกิดขึ้นจากน้ำหนักตัว การยืนหรือเดินนาน ๆ การเล่นกีฬา หรือปัญหาจากโครงสร้างของฝ่าเท้า สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดและทำกายภาพบำบัด
โรครองช้ำ (Plantar fasciitis) หรือ โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ ผู้ที่ป่วยจะมีอาการเจ็บส้นเท้า หรือบางรายอาจเจ็บทั่วทั้งฝ่าเท้า โดยเฉพาะช่วงที่ตื่นนอนตอนเช้า หากลุกเดินในก้าวแรกจะมีอาการเจ็บ หรือก้าวแรกหลังจากที่นั่งพักเป็นเวลานาน
โรครองช้ำเป็นโรคที่พบได้บ่อย สาเหตุส่วนใหญ่ของโรค เกิดจากการใช้งานเท้าหนักเกินไปทำให้เกิดการสึกหรอ โดยปกติแล้ว เอ็นฝ่าเท้าจะช่วยรองรับอุ้งเท้า และทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกขณะเดิน เมื่อเอ็นฝ่าเท้าเกิดการอักเสบ จึงทำให้รู้สึกปวด และเดินไม่สะดวก ส่วนใหญ่แล้ว โรคนี้มักจะเกิดกับคนในช่วงวัย 40-70 ปี และมักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
อาการหลัก ๆ ของรองช้ำ หรืออาการปวดที่บริเวณส้นเท้า หรือฝ่าเท้า โดยเฉพาะเวลาที่ลุกขึ้นยืนจากท่านั่งหรือท่านอนเป็นเวลานาน ๆ และอาการปวดจะค่อย ๆ เบาลงเมื่อได้เคลื่อนไหวเท้า ก่อนที่จะกลับมาปวดอีกครั้ง วนไปมา
ปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของรองช้ำ มีดังต่อไปนี้
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณหมอสามารถวินิจฉัยรองช้ำได้ด้วยการตรวจร่างกายและดูอาการที่เป็น โดยอาจทำการตรวจดูบริเวณที่มีอาการปวด นอกจากนี้ คุณหมอก็อาจให้ทำการตรวจเอกซเรย์หรือ MRI หากสงสัยว่าอาจจะมีอาการอื่น ๆ เช่น กระดูกหัก ร่วมด้วย
หากอาการไม่มากนัก ในเบื้องต้นการใช้ยาในกลุ่มยาลดการอักเสบที่ไม่มีสเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) นาพรอกเซน (naproxen) สามารถช่วยลดอาการอักเสบและปวดได้
นักกายภาพบำบัดสามารถแนะนำท่ายืดกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณฝ่าเท้าและเอ็นร้อยหวาย และทำให้กล้ามเนื้อขาส่วนล่างแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ข้อเท้าและส้นเท้ามีความมั่นคงมากขึ้นในยามใช้งาน นักกายภาพบำบัดยังสามารถช่วยสอนวิธีพันแถบผ้าเพื่อช่วยพยุงฝ่าเท้าได้อีกด้วย
นักกายภาพบำบัดหรือหมออาจจะแนะนำให้ใส่เฝือกอ่อน ซึ่งช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่อง และอุ้งเท้าในขณะนอนหลับ ทั้งยังช่วยยืดฝ่าเท้าและเอ็นร้อยหวายในตอนกลางคืนได้ด้วย
เมื่อลองรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แล้วอาการปวดยังไม่ลดลง คุณหมออาจต้องรักษาด้วยการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อให้อาการปวดบรรเทาลง แต่วิธีนี้ไม่สามารถทำได้บ่อยๆ เนื่องจากอาจทำให้กล้ามเนื้อถูกทำลายได้ ปัจจุบันนี้ มีการเปลี่ยนมาฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นที่ใช้ในการรักษา (Platelet-Rich Plasma – PRP) โดยใช้อัลตร้าซาวด์เป็นคลื่นนำทางเข้าสู่จุดที่เหมาะสมในการฉีด การฉีดด้วย PRP สามารถช่วยลดความเจ็บปวดได้ และข้อดีก็คือมีความเสี่ยงในการที่กล้ามเนื้อจะถูกทำลายน้อยกว่า
กระบวนการนี้ จะเป็นการใช้คลื่นเสียงตรงบริเวณที่เจ็บปวดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเยียวยาตัวเอง ปกติมักจะใช้กับโรครองช้ำเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาตามปกติ การรักษาด้วยคลื่นกระแทกอาจทำให้เกิดอาการช้ำ บวม ปวด หรือชาได้ โดยการศึกษาบางชิ้นพบว่า การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave) แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดี แต่ประสิทธิภาพที่ได้ยังไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าใดนัก
การรักษาอาการปวดด้วยการผ่าตัดจะใช้ในกรณีที่มีอาการปวดรุนแรงเท่านั้น โดยศัลยแพทย์จะผ่าตัดเพื่อแยกเอาเอ็นที่ฝ่าเท้าบางส่วนออกจากกระดูกส้นเท้า ซึ่งผลข้างเคียงก็คือกล้ามเนื้อที่อุ้งฝ่าเท้าอ่อนแอลง และอาจทำงานได้ไม่เหมือนเดิม การผ่าตัดอีกแบบหนึ่งเรียกว่า การผ่าตัดยืดเอ็นกล้ามเนื้อน่อง (Gastrocnemius recession) ที่ทำให้เอ็นกล้ามเนื้อน่องยาวขึ้น และไม่เกิดแรงดึงอยู่ตลอดเวลาที่เอ็นร้อยหวาย ก็ช่วยบรรเทาอาการของโรครองช้ำได้
การดูแลตัวเองก็มีส่วนช่วยให้ไม่เกิดโรครองช้ำได้ โดยเริ่มจากการ
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
พลอย วงษ์วิไล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย