หัวทุย ลักษณะศีรษะของทารก ที่คุณแม่บางท่านต้องการอยากให้ลูกมีหัวทุยสวย ไม่แบน จึงมีการศึกษาเรื่องท่านอนลูกตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้ลูกมีศีรษะทุยสวย แต่การจัดท่านอนทารกที่ไม่เหมาะสม เพื่อหวังให้ลูกหัวทุยก็อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้
หัวทุย ลักษณะศีรษะของทารก ที่คุณแม่บางท่านต้องการอยากให้ลูกมีหัวทุยสวย ไม่แบน จึงมีการศึกษาเรื่องท่านอนลูกตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้ลูกมีศีรษะทุยสวย แต่การจัดท่านอนทารกที่ไม่เหมาะสม เพื่อหวังให้ลูกหัวทุยก็อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้
ลักษณะศีรษะของเด็กหัวทุย ทารกจะมีความโค้งมนที่กะโหลกศีรษะบริเวณท้ายทอย แตกต่างจากเด็กหัวแบน ที่จะมีลักษณะรูปกะโหลกศีรษะแบนทั้ง 2 ด้าน แต่หากกะโหลกศีรษะบริเวณท้ายทอยแบนราบแค่ด้านใดด้านหนึ่ง อาจเรียกได้ว่า ทารกหัวเบี้ยว การจัดท่านอนลูกให้เหมาะสมแต่ละช่วงวัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทารกนอนหลับได้สบาย ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อทารกคลอดออกมา ร่างกายจะยังไม่แข็งแรง จึงจำเป็นต้องได้รับโภชนาการที่ดี การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการนอนหลับ ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโต สำหรับทารกแรกเกิดที่กระดูกคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง คุณพ่อคุณแม่ควรจัดท่านอนที่เหมาะสมให้กับทารกด้วยการให้นอนหงายและนอนตะแคง
โดยจัดศีรษะให้ลูกนอนสลับด้านบ่อย ๆ ระหว่างหลับ เพราะกระหม่อมหลังของทารกจะปิดก่อนกระหม่อมหน้า โดยค่อย ๆ ปิดตั้งแต่เดือนแรก และจะเริ่มปิดสนิทเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน ส่วนกระหม่อมหน้าจะค่อย ๆ ปิด จนช่วงอายุ 9-18 เดือน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ปีครึ่ง จึงควรจัดท่านอนในเดือนแรกลักษณะนี้ เพื่อให้ทารกหลับสบาย หัวทุยสวย อาจช่วยป้องกันหัวแบนหรือหัวเบี้ยวได้
ช่วงวัยนี้ พัฒนาการด้านร่างกายของทารกเริ่มดีขึ้น กระดูกแข็งแรงขึ้น จึงสามารถนอนคว่ำได้ โดยท่านอนคว่ำจะช่วยลดการนอนสะดุ้งหรือผวาตื่น
ทารกเกิน 6 เดือนขึ้นไป ร่างกายจะเจริญเติบโต แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี เริ่มมีแรงมากพอจะพลิกตัวเองได้ จึงสามารถให้นอนท่าไหนก็ได้ เช่น นอนคว่ำ นอนหงาย หรือนอนตะแคง
ทารกในวัยแรกเกิดจน 4 เดือน เป็นวัยบอบบาง ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายโดยเฉพาะโรคการตายฉับพลันของเด็กทารกโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) ซึ่งมีคำแนะนำดังนี้
นอกจากนี้ ควรสังเกตสภาพสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกอยู่เสมอ บนที่นอนของเด็กไม่ควรมีตุ๊กตา หมอน ผ้าห่ม หรือของเล่น ที่อาจจะมาปิดหน้าได้ระหว่างที่นอนหลับอยู่ โดยเฉพาะเด็กที่มีนิสัยชอบคว้าสิ่งของรอบตัว
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
พลอย วงษ์วิไล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย