สูตรยำลูกชิ้นนึ่ง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

สำหรับเมนูยำที่ Hello คุณหมออยากจะมานำเสนอให้ทุกท่านวันนี้ก็คือ สูตรยำลูกชิ้นนึ่ง ซึ่งทำทานเองได้ง่ายๆ และยังได้คุณค่าสารอาหารจากวัตถุดิบอีกด้วยค่ะ

สารอาหารจากผักต่างๆในสูตรยำลูกชิ้นนึ่ง

แม้ว่าผักจะไม่ใช่วัตถุดิบหลักของ สูตรยำลูกชิ้นนึ่ง แต่การเสริมผักเข้าไปในอาหารทุกมื้อ จะเป็นการเสริมสร้างสุขภาพและสุขลักษณะนิสัยทางการกินที่ดีได้ อาหารประเภทยำแม้จะเน้นรสชาติที่แซ่บ จัดจ้าน และมักจะเน้นการได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดีวัตถุดิบรองอย่างผักต่างๆ ในยำ ก็ให้คุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

หอมหัวใหญ่

หอมใหญ่

หลายคนมักไม่ชอบให้ใส่หอมใหญ่ลงไปในยำ หรือไม่ว่าหอมแบบไหนก็ขอว่าอย่าได้ใส่ลงไป ซึ่งโดยมากจะให้เหตุผลในเรื่องกลิ่นที่ฉุน หรือรสชาติที่ไม่ถูกใจ แต่หากพิจารณาถึงสารอาหารในหอมใหญ่แล้ว บอกได้เลยว่าอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เพราะหอมใหญ่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของหัวใจ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแอนโธไซยานินส์ (anthocyanins) ซึ่งเป็นรงควัตถุในพืชที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด และโรคเบาหวาน หัวหอมเป็นแหล่งของพรีไบโอติก ซึ่งดีต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ และมีประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน

มะเขือเทศ

มะเขือเทศมักขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ แต่การทานมะเขือเทศอาจให้ประโยชน์ที่มากกว่าการบำรุงผิวทั่วไป ดังนี้ มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินซี และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยในการต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ยิ่งไปกว่านั้น สารอาหารอย่างไฟเบอร์ โพแทสเซียม และโคลีน ยังมีประโยชน์ต่อหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย และเนื่องจากในมะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยไฟเบอร์สูง จึงดีต่อระดับน้ำตาลในเลือด และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่1และ2

ขึ้นฉ่าย

แม้ว่าเรื่องกลิ่นของขึ้นฉ่ายจะเป็นปัญหาที่ทำให้ใครต่อใครเลือกจะไม่ใส่ลงในอาหาร แต่สารอาหารในขึ้นฉ่ายกลับช่วยแก้ไขปัญหาทางสุขภาพได้อย่างมากมาย นอกเหนือจากวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ขึ้นฉ่ายยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและโพลีแซคคาไรด์ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นสารต่อต้านการอักเสบ โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ซึ่งมีประโยชน์ต่อผู้สูงอายุเพราะช่วยต่อสู้กับความเสียหายจากอนุมูลอิสระ (หรือความเครียดจากอนุมูลอิสระ) ที่สามารถนำไปสู่การอักเสบของร่างกาย เพราะการอักเสบมักเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคข้ออักเสบ