ผลกระทบของโควิด-19 ที่ทำคน เสี่ยงฆ่าตัวตาย มากขึ้น
ผลการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่ที่เผยแพร่ในวารสาร Brain, Behavior, and Immunity ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา อิตาลี สหราชอาณาจักร เยอรมนี อินเดีย บังกลาเทศ และซาอุดิอาระเบีย ชี้ว่า อัตราการฆ่าตัวตายเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 นั้นมีตัวเลขสูงขึ้น และปัญหานี้กำลังจะกลายเป็นปัญหาระดับโลก
โดยนักวิจัยเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงในการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้น มาจากผลกระทบที่มาจากการระบาดของเชื้อโควิด ดังนี้
ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในช่วงปิดเมือง
การปิดเมือง หรือ Lockdown เป็นหนึ่งในมาตรการที่หลายประเทศเลือกใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่มาตรการนี้ก็กลายมาเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติเช่นกัน ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องตกงานเพราะเพราะโควิด-19 ไหนจะต้องมานั่งเครียดเรื่องการเงินและรายได้ที่ลดลง ทั้งยังรู้สึกสิ้นหวัง และไร้ค่า จึงทำให้อัตราการฆ่าตัวตายของประชากรในหลายพื้นที่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ยกตัวอย่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศเยอรมนี ก็ฆ่าตัวตายเมื่อปลายเดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2563 โดยรายงานระบุว่า ที่เขาตัดสินใจเช่นนี้เพราะรู้สึกสิ้นหวังกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การเว้นระยะห่างทางสังคม และความโดดเดี่ยว
อีกหนึ่งมาตรการที่ทั่วโลกใช้ในการรับมือกับโรคโควิด-19 ก็คือ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งวิธีการนี้ถือเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้ผู้คนที่เครียดและหวาดกลัวโควิด-19 อยู่แล้ว ยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว และเครียดหนักกว่าเดิมได้เช่นกัน โดยผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ความโดดเดี่ยวจากการเว้นระยะห่างทางสังคมนี้ ทำให้ผู้คนมีปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้นหลายอย่าง รวมถึงโรคซึมเศร้า และความคิดอยากฆ่าตัวตายด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย