backup og meta

ยาฆ่าแมลง อันตรายที่ แม่ท้อง ไม่ควรมองข้าม

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 19/02/2022

    ยาฆ่าแมลง อันตรายที่ แม่ท้อง ไม่ควรมองข้าม

    ยาฆ่าแมลง นอกจากจะเป็นอันตรายต่อแมลง ศัตรูพืช และสัตว์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นอันตรายต่อคน โดยเฉพาะ แม่ท้อง ที่อาจได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลงที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำ สเปรย์กำจัดแมลง ยากันยุง ส่งผลให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด หรือการพิการแต่กำเนิดได้ ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรระมัดระวังสารพิษและยาฆ่าแมลง หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดศัตรูพืช และควรเข้าพบคุณหมอในทันทีหากได้รับสารพิษหรือยาฆ่าแมลงเข้าไป เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที

    ยาฆ่าแมลง คืออะไร

    ยาฆ่าแมลง คือ สารเคมีที่ใช้สำหรับกำจัดแมลง จัดอยู่ในสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ (Pesticide) ชนิดหนึ่ง โดยสารเคมีกลุ่มนี้ นอกจากสารฆ่าแมลง ยังมี สารกำจัดวัชพืช สารฆ่าเชื้อรา และสารฆ่าสัตว์ฟันแทะ เช่น ยาฆ่าหนู ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์รอบตัวมากมายหลายชนิด บางชนิดใช้ในการเกษตร เช่น ยาฆ่าหญ้า บางชนิดใช้กันทั่วไปในครัวเรือน เช่น น้ำยาฟอกขาว สเปรย์กำจัดแมลงสาบ

    สารเคมีเหล่านี้อาจช่วยกำจัดศัตรูพืช และทำให้บ้านปลอดจากแมลง แต่ก็สามารถทำลายสุขภาพได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากกำลังตั้งครรภ์ กำลังให้นมบุตร หรือวางแผนจะมีลูก

    แหล่งของสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ในชีวิตประจำวัน

    หากเอ่ยถึง ยาฆ่าแมลง หรือสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ คนส่วนใหญ่อาจคิดว่า ใช้กันแค่ในกลุ่มของเกษตรกร ตามสวน ไร่ นา หากอยู่ในเมืองคงไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ความจริงแล้ว สารเคมีกลุ่มนี้อยู่รอบตัวมากกว่าที่คิด แต่ละวันร่างกายอาจได้รับยาฆ่าแมลง และสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้จาก

    • น้ำและอากาศ
    • สเปรย์กำจัดแมลง
    • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น น้ำยาฟอกขาว
    • อาหาร และผลิตผลทางการเกษตร
    • ผลิตภัณฑ์ทำสวน เช่น ยาฆ่าหญ้า
    • ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น แชมพูกำจัดเห็บหมัด
    • ยากำจัดสัตว์ฟันแทะ เช่น ยาฆ่าหนู

    ยาฆ่าแมลง …ศัตรูตัวร้ายของ แม่ท้อง

    ยาฆ่าแมลง ถือเป็นสารเคมีอันตราย หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับสารเคมีกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบกับการตั้งครรภ์ เช่น ทำให้แท้ง หรือเกิดการคลอดก่อนกำหนด อีกทั้งยังส่งผลเสียตรงต่อเด็กในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เพราะเป็นช่วงที่สมอง พัฒนาการ และอวัยวะของเด็ก กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หากได้รับสารเคมีเหล่านี้จะส่งผลให้เด็กมีปัญหา ดังต่อไปนี้

    • มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์
    • พิการแต่กำเนิด
    • พัฒนาการล่าช้า และเกิดความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง (Cognitive Impairment)
    • เป็นโรคมะเร็งสมองในเด็ก
    • เป็นโรคออทิสติก
    • เป็นโรคสมาธิสั้น
    • ระบบต่อมไร้ท่อมีปัญหา

    ไม่ใช่แค่เฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ทั้งหญิงและชาย ที่วางแผนจะมีลูก ก็ควรจะระมัดระวัง ไม่ให้ร่างกายรับสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ในปริมาณมากเกินไปเช่นกัน เพราะสารเคมีเหล่านี้สามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน และอาจส่งผลให้มีภาวะมีบุตรยากได้

    วิธีลดความเสี่ยงในการรับยาฆ่าแมลงสำหรับแม่ท้อง

    • การกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ด้วยวิธีธรรมชาติแทนการใช้ ยาฆ่าแมลง เช่น วางพริกไทยดำหรือกระเทียมไว้ตามจุดที่ยุงชุมเพื่อไล่ยุง ใช้เกลือฆ่าวัชพืชในสวนหน้าบ้าน
    • หากโดนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ให้รีบอาบน้ำและซักเสื้อผ้าชุดที่เปื้อนทันทีที่ทำได้ โดยต้องแยกซักเพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีเปื้อนเสื้อผ้าตัวอื่น
    • หากจำเป็นต้องใช้ ยาฆ่าแมลง ในบ้าน ควรเก็บอาหาร จาน ชาม หรือเครื่องใช้ในบ้านให้ดีก่อนฉีดพ่นยาฆ่าแมลง และอย่าลืมเปิดหน้าต่าง ประตู ให้อากาศถ่ายเท เมื่อทำความสะอาดบ้านหลังจากการใช้ยาฆ่าแมลงทุกๆครั้ง
    • หากบริเวณใกล้บ้านมีการฉีดพ่นยาสารเคมี ก็ควรปิดหน้าต่างและเครื่องปรับอากาศ เพื่อไม่ให้สารเคมีเข้ามาในบ้านและกระจายตัว
    • เลือกกินอาหารออร์แกนิก หรืออาหารปลอดสารเคมีจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อลดโอกาสได้รับสารเคมีตกค้างในอาหาร และควรล้างผัก และผลไม้ก่อนรับประทานให้สะอาด เพื่อป้องกันสารพิษที่อาจจะตกค้างได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 19/02/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา