วรรณกรรมเยาวชน เป็นประเภทหนังสือชนิดหนึ่งมักมีเนื้อหาเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยเด็กหรือผู้ที่เริ่มอ่านหนังสือเพราะนอกจากจะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังถือเป็นประตูบานแรก ๆ ที่เปิดโลกแห่งจินตนาการ มีประโยชน์ในการช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ให้ข้อคิดเตือนใจ เป็นแรงบันดาลใจที่ดี และปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน เสริมสร้างนิสัยชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
[embed-health-tool-bmi]
การอ่านสำคัญอย่างไรต่อเด็ก ๆ
ในช่วงที่ลูกน้อยยังเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ด้วยการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง เมื่อลูกโตขึ้นและอยู่ในช่วงวัยที่สามารถอ่านหนังสือได้เอง ก็อาจแนะนำหนังสือที่มีเนื้อหาซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือสารคดี (Non-fiction) ที่ให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น หนังสือประวัติศาสตร์น่ารู้ หนังสือเกี่ยวกับระบบร่างกาย หรือหนังสือบันเทิงคดี (Fiction) ที่มีให้เลือกมากมายหลายแบบ เช่น วรรณกรรมเยาวชน วรรณกรรมร่วมสมัย กวีนิพนธ์ เรื่องสั้น นวนิยายต่าง ๆ
คุณพ่อคุณแม่อาจเลือก วรรณกรรมเยาวชน ซึ่งประเภทหนังสือที่มีให้เลือกอ่านอย่างหลากหลาย ทั้งจากนักเขียนคนไทย และนักเขียนต่างประเทศที่แปลมาเป็นภาษาไทย มาให้เด็ก ๆ ได้อ่านเป็นเรื่องแรก ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมความจำ กระตุ้นทักษะการคิดวิเคราะห์ ฝึกให้ลูกน้อยมีสมาธิจดจ่อ ช่วยให้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ เป็นการเพิ่มคลังศัพท์ให้เด็ก ๆ นำไปใช้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้มุมมองการมองโลกกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี
วรรณกรรมเยาวชน 5 เล่มแนะนำ ผู้ใหญ่อ่านได้ เด็กอ่านดี
ตัวอย่างวรรณกรรมเยาวชนแนะนำที่จะช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านให้เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี
-
เด็กหญิงสวนกาแฟ
ผู้เขียน เม น้อยนาเวศ สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
“คนชั้นยายชั้นย่ารักหลานมากกว่าลูก เพราะหลานก็คือลูกของลูกที่ยายรัก”
เด็กหญิงสวนกาแฟ บอกเล่าวิถีชีวิตทางใต้และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจผ่านมุมมองของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “น้องเม” ซึ่งเป็นเด็กหญิงลูกสาวเจ้าของสวนกาแฟในจังหวัดชุมพร หนังสือเล่มนี้จะทำให้คนอ่านตกหลุมรักชีวิตธรรมดาที่แสนพิเศษ มุกตลกที่สอดแทรกเข้ามาตลอดเรื่อง ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ตีกันบ้างเป็นธรรมดา และความน่าเอ็นดูของเด็กหญิงตัวน้อยที่ช่างพูดแต่ก็สงวนท่าทีกับคนแปลกหน้า ทำให้ผู้อ่านรู้สึกผูกพันไปกับตัวละครโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ การเล่าเรื่องยังส่งให้มีผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมอย่างท่วมท้นเมื่อตัวละครและครอบครัวประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่ก็ไม่เศร้าหรือรุนแรงเกินไปสำหรับเด็ก ๆ ทั้งยังสอนให้เรียนรู้ถึงการสูญเสียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เกิดขึ้นกับทุกคน
-
ขอให้วัยเยาว์ของเราเป็นนิรันดร์ (The Perks of being a Wallflower)
ผู้เขียน สตีเฟ่น ชบอสกี้ สำนักพิมพ์ Beat (บีท)
“เราต่างรักคนที่เราคิดว่าเราคู่ควร”
วรรณกรรมเยาวชนเรื่องดังในยุค 2000s ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กมัธยมปลายที่ชื่อว่า “ชาร์ลี” ซึ่งเป็นเด็กเก็บตัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟนสาว จนกระทั่งได้พบกับกลุ่มเพื่อนใหม่ ที่ทำให้เขาพบกับประสบการณ์ความรักและมิตรภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อม ๆ กันนั้นก็เปิดเผยให้ผู้อ่านรู้ว่าชาร์ลีในวัยเยาว์พบเจอเรื่องราวอะไรมาบ้างที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นเด็กที่หลบอยู่ตามมุมกำแพงในงานปาร์ตี้อย่างเช่นทุกวันนี้ รวมไปถึงบอกเล่าการรับมือและก้าวผ่านเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลในจิตใจของตัวละครได้อย่างน่าสะเทือนใจ
เชื่อว่าเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กไปยังวัยรุ่นแรกแย้มของชาร์ลีและเพื่อน ๆ จะสร้างรอยยิ้มและความประทับใจไม่รู้ลืมไว้ในหัวใจของผู้อ่านวัยเยาว์และผู้อ่านทุกวัยได้อย่างแน่นอน
-
ต้นส้มแสนรัก
ผู้เขียน โจเซ่ เมอโร เดอ วาสคอนเซลอส สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
“ฉันจะฆ่าเขาในหัวใจของฉัน ด้วยการหยุดรักเขา แล้ววันหนึ่งเขาก็จะตาย”
วรรรกรรมเยาวชนสุดคลาสสิคที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 30 ภาษา บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยในโลกแห่งจินตนาการของ “เซเซ่” เด็กชายชาวบราซิลวัย 5 ขวบที่เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน ซึ่งทำให้ชีวิตของเขาไร้ความสุขเสียจนต้องสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาเพื่อหลีกหนีความเป็นจริงที่โหดร้ายและเจ็บปวด วันหนึ่งครอบครัวเซเซ่ก็ถึงคราวที่ต้องย้ายบ้าน และนั่นทำให้เขาได้พบกับต้นส้มต้นหนึ่ง ที่เป็นเหมือนเพื่อนคอยรับฟังเรื่องราวของเขา เป็นที่มาของชื่อเรื่องต้นส้มแสนรักนั่นเอง
ความเป็นจริงและโลกแห่งจินตนาการของเซเซ่มีทั้งเรื่องสุข สนุก น่าตื่นเต้น โศกเศร้า และน่าสะเทือนใจ ทำให้ผู้อ่านอดรู้สึกไม่ได้ว่าอยากกอดปลอบเด็กน้อยคนนี้เหลือเกิน วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับผู้อ่านวัยเยาว์ ยังเหมาะสำหรับคนในวัยอื่น ๆ ที่ทั้งเคยอ่านและไม่เคยอ่านเรื่องราวกับเซเซ่และต้นส้มของเขามาก่อน นับเป็นหนังสืออีกเล่มที่จะตราตรึงในหัวใจผู้อ่านไปแสนนาน
-
ผมปัญญาอ่อน
ผู้เขียน หวัง ซู เฟิน สำนักพิมพ์ วารา
“ผมมีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจ แต่ขาเป๋เพื่อนสนิทผมกลับพูดว่า เพราะนายไม่เข้าใจ นายถึงมีความสุข”
“เผิง เถี่ย หนัน” เป็นเด็กชายที่ถูกเพื่อนและคนรอบข้างเรียกว่า “ปัญญาอ่อน” และมักจะถูกดูถูกเหยียดหยาม ทั้งยังโดนกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานาอยู่เสมอ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เผิง เถี่ย หนัน ก็ยังคงรักษาความดีและบริสุทธิ์ของจิตใจของตัวเองไว้ได้อย่างน่าชื่นชม หนังสือเล่มนี้สอนให้ผู้อ่านรับรู้ถึงความงดงามของหัวใจของเด็กที่มีอ่อนด้อยทางพัฒนาการทางสติปัญญาคนหนึ่ง และอาจช่วยให้ผู้อ่านวัยเยาว์มีความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความแตกต่างของผู้อื่นในสังคม รวมทั้งเรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นที่ต่างไปจากตัวเองด้วยความเคารพในตัวซึ่งกันและกันได้มากขึ้น
-
ต้นไม้ ไข่ไก่ และหัวใจหกคะเมน (Flipped)
ผู้เขียน เวนเดอลิน แวน ดราเน็น สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
“ฉันเสียใจแทนพ่อของฉัน และเสียใจแทนแม่ของฉัน แต่ที่สำคัญที่สุด ฉันรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่พวกเขาเป็นพ่อแม่ของฉัน”
ต้นไม้ ไข่ไก่ และหัวใจหกคะเมนเป็นวรรณกรรมเยาวชนแปลจากหนังสือเรื่อง Flipped ในภาษาอังกฤษ และนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครเด็กหญิงที่ชื่อว่า “จูลี” และเด็กชายที่ชื่อว่า “ไบรซ์” ผ่านมุมมองที่สลับไปมาของเด็กทั้งสองคนต่อเหตุการณ์เดียวกัน ไบรซ์มองว่าจูลีเป็นเด็กบ้านจนที่ทำตัวแปลกประหลาด ในขณะที่จูลีมองว่าไบรซ์ช่างเป็นคนที่ส่องสว่างและน่าสนใจ เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็นตอนที่ไบรซ์ย้ายมาบ้านหลังตรงข้ามในช่วงป.2 และพยายามเข้าไปพูดคุยและให้ไข่สดจากไก่ที่เธอเลี้ยงเอง แต่ไบรซ์ก็ไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอเสียเลย ทั้งยังทิ้งไข่สดใหม่ที่จูลีเก็บมาให้ทุกครั้งที่ได้รับมา
วันหนึ่งเมื่อต้นไม้ที่จูลีรักมากถูกโค่น พร้อม ๆ กับความจริงที่ว่าไบรซ์ทิ้งไข่ของเธออย่างไม่ใยดีเปิดเผย ทำให้จูลีเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อไบรซ์ไป ในขณะเดียวกันไบรซ์ก็เริ่มหันมามองจูลีด้วยมุมมองที่พลิกกลับด้านไปอย่างสิ้นเชิง เรื่องราวความวุ่นวายของเด็กหญิงและเด็กชายที่มองคุณค่าของต้นไม้และไข่ไก่คนละแบบอาจเป็นหนังสืออีกเล่มที่นักอ่านตัวน้อยเพลิดเพลินจนวางไม่ลง