backup og meta

วิธีลดไข้ สำหรับเด็ก ที่พ่อแม่ควรรู้

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงจิตรลดา ชินสุวรรณ · พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช (ศรีนครินทร์)


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 21/04/2022

    วิธีลดไข้ สำหรับเด็ก ที่พ่อแม่ควรรู้

    ไข้ในเด็ก เป็นสัญญาณเตือนที่อาจบอกได้ว่าร่างกายของเด็กกำลังทำปฏิกิริยาต่อต้านการติดเชื้อจากสิ่งแปลกปลอม ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กมีไข้ขึ้นสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส โดย วิธีลดไข้ สำหรับเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ คือ เช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกาย และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ป้องกันการเกิดภาวะชักจากไข้ขึ้นสูง

    สาเหตุที่ทำให้เด็กเป็นไข้

    สาเหตุที่ทำให้เด็กเป็นไข้ อาจมาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    • การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด อีสุกอีใส หัด กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส
    • การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น หูอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไข้อีดำอีแดง การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
    • ภาวะการอักเสบ เช่น โรคคาวาซากิ หูอักเสบ ข้ออักเสบรูมาตอยด์
    • ผลข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีน หรือรับประทานยาปฏิชีวนะ

    เนื่องจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย รวมถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้ร่างกายผลิตสารเคมีที่เรียกว่า ไซโตไคน์ (Cytokine) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีส่วนช่วยตอบสนองต่อการอักเสบ การติดเชื้อ และสร้างแอนติบอดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ จึงส่งผลให้ร่างกายเด็กมีอุณหภูมิสูง หรือเป็นไข้ได้

    วิธีลดไข้ สำหรับเด็ก

    วิธีลดไข้สำหรับเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ มีดังนี้

    • วัดไข้สม่ำเสมอ
    • ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดตัว โดยเฉพาะบริเวณหลังคอ ใต้วงแขน ท้อง และขาหนีบ หรืออาบน้ำด้วยอุณหภูมิห้อง
    • เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น
    • ให้เด็กดื่มน้ำมากขึ้น เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม
    • ให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ
    • เลือกยาลดไข้ให้เหมาะสม เช่น ยาอะเซตามิโนเฟน ยาไอบูโพรเฟน

    สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเด็กเป็นไข้

    สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทำ เมื่อเด็กเป็นไข้ ได้แก่

    • อาบน้ำให้เด็ก หรือเช็ดตัวเด็กด้วยน้ำเย็นจัด
    • ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีรับประทานยาแอสไพริน
    • ไม่ควรให้เด็กรับประทานยาไอบูโพรเฟนร่วมกับพาราเซตามอล เว้นแต่คุณหมอจะอนุญาต
    • ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 เดือนรับประทานยาพาราเซตามอล
    • ไม่ควรให้ยาไอบูโพรเฟนแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน และมีน้ำหนักต่ำกว่า 5 กิโลกรัม
    • สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด ไม่ควรให้ยาไอบูโพรเฟน

    อาการไข้ในเด็กระดับรุนแรง ที่ควรเข้าพบคุณหมอ

    หากไข้ยังไม่ลดลง หรือมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียสติดต่อกันหลายวัน และมีอาการอื่น ๆ เช่น เจ็บคอ ปวดหู อาเจียน ท้องร่วง ผื่นขึ้น ร่วมด้วย ควรเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาจากคุณหมอทันที เพราะหากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่อาการชักจากไข้สูงที่ส่งผลให้ร่างกายของเด็กขาดออกซิเจน ตัวเขียว ติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง พัฒนาการด้านการเรียนรู้ล่าช้า และอาจเสี่ยงเป็นโรคลมชักได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงจิตรลดา ชินสุวรรณ

    พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช (ศรีนครินทร์)


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 21/04/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา