backup og meta

พัฒนาการเด็ก เดือนที่ 13 เป็นอย่างไรบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 29/11/2022

    พัฒนาการเด็ก เดือนที่ 13 เป็นอย่างไรบ้าง

    พัฒนาการเด็ก เดือนที่ 13 โดยทั่วไป เด็กอาจมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยอาจจะเลือกกินมากขึ้น นอกจากนี้ พฤติกรรมการนอนก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณแม่ควรศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กเดือนที่ 13 เอาไว้ เพื่อจะได้ดูแลได้อย่างถูกต้อง

    การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก เดือนที่ 13

    ลูกน้อยจะเติบโตและมีพัฒนาการเด็ก เดือนที่ 13 อย่างไร

    ลูกน้อยวัย 13 เดือน อาจมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อาจเลือกกินมากขึ้น ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกน้อยได้ลองรับประทานอาหารชนิดต่าง ๆ หรืออาหารที่ไม่ชอบกินมาก่อน เพราะการรับรสของลูกน้อยจะพัฒนาขึ้น จึงควรลองใช้เครื่องปรุงรสต่าง ๆ  แต่ควรระวังหากลูกน้อยน้ำหนักลด หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น เป็นไข้ ท้องเสีย อาจเกิดการติดเชื้อทางเดินอาหาร ซึ่งควรพาลูกน้อยไปพบคุณหมอ

    ไม่เพียงแต่พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมการนอนของลูกน้อยก็อาจเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยลูกน้อยที่นอนหลับเป็นปกติมาตลอด อาจตื่นขึ้นมากลางดึก ในช่วงอายุระหว่าง 12-14 เดือน และเริ่มฝัน ซึ่งฝันนั้นอาจทำให้ตกใจและร้องไห้กลางดึก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรปลอบโยน ด้วยการนอนกับลูกน้อยจนกว่าจะหลับ อาการเช่นนี้จะผ่านไปในไม่ช้า

    ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร

    บางครั้งการที่ลูกน้อยเลือกรับประทานมากขึ้นอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เครียด แต่ก็ไม่ควรบังคับให้ลูกน้อยรับประทานอาหารมากจนเกินไป ควรปล่อยให้รับประทานตามความต้องการ แม้ว่าจะไม่สามารถควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารของลูกน้อยได้ แต่คุณพ่อคุณแม่คือผู้ควบคุมสิ่งที่ลูกน้อยรับประทานเข้าไป ดังนั้น จึงควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และพยายามหลีกเลี่ยงของหวานที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและอารมณ์ของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดเวลานอนของลูกน้อยให้เป็นเวลาประจำในแต่ละวัน ซึ่งรวมถึงเวลาอาบน้ำ ดื่มนม แปรงฟัน และเวลาเล่านิทานก่อนนอนด้วย ในช่วงแรกลูกน้อยอาจมีพฤติกรรมต่อต้าน แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ลูกน้อยจะตั้งหน้าตั้งตาคอยฟังนิทานก่อนนอนในช่วงเวลานั้น

    ในช่วงนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรซื้อรองเท้าให้ลูกน้อยสวมใส่ได้แล้ว แทนที่จะให้ใส่แต่ถุงเท้าอย่างที่เคยทำมา

    สุขภาพ ความปลอดภัย

    จะเกิดอะไรกับลูกน้อยเวลาไปพบคุณหมอ

    ลูกน้อยอาจได้รับการตรวจร่างกายประจำปีไปแล้วเมื่อเดือนก่อน แต่ถ้ายังไม่ได้รับการตรวจก็ควรทำในเดือนนี้ โดยควรบอกคุณหมอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การนอน และพฤติกรรมต่าง ๆ

    ควรปรึกษาคุณหมออย่างไร

    มีอาหารบางชนิดที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้น คุณหมอถึงแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รอจนกว่าลูกน้อยจะอายุครบ 1 ขวบเสียก่อน ซึ่งตอนนี้ลูกน้อยอายุครบ 13 เดือนแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกรับประทานอาหารต่าง ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้

    • ควรรู้ว่าอาหารประเภทใดจะก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไข่ ถั่ว สตรอว์เบอร์รี่ น้ำผึ้ง นมวัว มะเขือเทศ
    • เริ่มแนะนำครั้งละหนึ่งชนิด วิธีการนี้อาจทำให้สามารถสังเกตปฏิกิริยาของลูกน้อยต่ออาหารนั้น ๆ ได้ ซึ่งโดยปกติอาจเริ่มป้อนอาหารชนิดใหม่ทุก ๆ 4-5 วัน
    • จดบันทึกประจำวัน เป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องติดตามอาการตอบสนองต่ออาหารชนิดต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ และอาจนำข้อมูลจากบันทึกประจำวันไปปรึกษากับคุณหมอ

    สิ่งที่ต้องเป็นกังวล

    คุณพ่อคุณแม่อาจกังวลว่าลูกน้อยจะหกล้มหรือไปชนกับอะไรเข้า อย่าพยายามปกป้องมากเกินไป ถึงแม้จะบาดเจ็บและฟกช้ำบ้าง แต่นี่คือส่วนหนึ่งของชีวิต ซึ่งลูกน้อยจะได้เรียนรู้และระมัดระวังมากขึ้น ทางที่ดีคือการให้เล่นอย่างอิสระ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกน้อยได้ การเล่นและการหกล้มจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยรู้วิธีการลุกขึ้นด้วยตัวเองเมื่อล้มลง และในที่สุดก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่ต้องให้คุณพ่อคุณแม่คอยโอ๋หรือปลอบใจ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    เนตรนภา ปะวะคัง


    เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 29/11/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา