ผักมีวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์ และน้ำ ช่วยเพิ่มพลังงาน บำรุงสายตาให้เด็ก และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งบางชนิด โรคหัวใจ ไฟเบอร์ในผักช่วยในการปรับลำไส้และขับถ่าย ผักที่คุณแม่อาจนำมาให้เด็กรับประทานได้ คือ ผักกาด ตำลึง ปวยเล้ง หน่อไม้ฝรั่ง ผักคะน้า แครอท กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักโขม บร็อคโคลี่ เป็นต้น โดยควรนำผักเหล่านี้มาล้างให้สะอาด ต้มให้นิ่มมากที่สุดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เน้นรับประทานให้หลากหลายในแต่ละมื้อ เพื่อให้ได้แร่ธาตุที่หลากหลาย
ผลไม้เป็นแหล่งรวมวิตามิน แร่ธาตุ โฟเลต โพแทสเซียม และไฟเบอร์ ที่มีส่วนช่วยทำให้ลำไส้ในทางเดินอาหารแข็งแรง ป้องกันท้องผูก ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง คุณแม่ควรนำผลไม้มาล้างทำความสะอาดและปรุงให้นิ่ม หรือนำไปปั่นให้พอมีเนื้อสัมผัส โดยผลไม้ที่อาจนำมาให้เด็กรับประทานได้ คือ กล้วย กีวี่ บลูเบอร์รี่ ส้ม แอปเปิ้ล มะละกอ สัปปะรด สตรอเบอร์รี่ แตงโม มะม่วง อะโวคาโด เป็นต้น
อาหารที่ทำจากนมพาสเจอร์ไรส์ เช่น โยเกิร์ต ชีส อาจเหมาะสำหรับลูกวัยตั้งแต่ 6 เดือน ขึ้นไป โดยคุณแม่ควรนำมาใช้ในการปรุงผสมกับอาหารชนิดอื่น ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป ไม่ควรให้ลูกรับประทานเป็นอาหารมื้อหลักเพียงอย่างเดียว จนกว่าลูกจะอายุได้ 12 เดือน
นอกจากนี้ ไม่ควรให้ลูกรับประทานนมเปรี้ยว เพราะเป็นนมที่หมักด้วยแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องระบบขับถ่าย การย่อยอาหาร แต่ก็อาจทำให้ลูกปวดท้อง ท้องร่วง หรือท้องผูกอย่างรุนแรงได้ อีกทั้งนมเปรี้ยวยังมีน้ำตาลปริมาณสูง ไม่เหมาะกับการนำมาเลี้ยงทารกในวัย 6 เดือนถึง 1 ปี
เตรียมอาหารให้ลูก 6 เดือน ควรทำอย่างไร
การเตรียมอาหารให้ลูก 6 เดือน คุณแม่ควรปรุงอาหารให้สุกและอ่อนนุ่ม โดยอาจเริ่มจากต้มหรื่อนึ่งให้เปื่อยแล้วบดละเอียด เมื่ออายุ 8-9 เดือน เคี้ยวกลืนได้ดีแล้ว จึงค่อย ๆ ปรับเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำเพื่อป้องกันการติดคอ ให้เด็กสามารถบดเคี้ยวและกลืนง่าย (ปรับตามฟันน้ำนมที่ขึ้น ซึ่งความพร้อมในการบดเคี้ยวของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน) อีกทั้งคุณแม่ควรเตรียมอาหารให้ลูกในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน ดังนี้
- ผักผลไม้ 2-3 ช้อนโต๊ะ หากไม่มีอาการท้องอืด หรือท้องผูก/ท้องเสีย จึงค่อย ๆ เพิ่มเป็น 4-8 ช้อนโต๊ะ ควรให้ลูกรับประทาน 1-2 ครั้ง/วัน
- ผลิตภัณฑ์ธัญพืช 1-2 ช้อนโต๊ะ และค่อย ๆ เพิ่มเป็น 2-4 ช้อนโต๊ะ โดยอาจผสมกับอาหารในแต่ละมื้อ
- เนื้อสัตว์และอาหารที่มีโปรตีน 1-2 ช้อนโต๊ะ และค่อย ๆ เพิ่มเป็น 2-4 ช้อนโต๊ะ ควรให้ลูกรับประทาน 2 ครั้ง/วัน
- มื้อแรกที่ฝึกให้ลูกรับประทานอาหารมีเนื้อสัมผัสหยาบ ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ลูกคุ้นชินกับรสชาติอาหารและเนื้อสัมผัสใหม่ หากสังเกตว่าลูกรับประทานอาหารได้ราบรื่น คุณแม่จึงค่อย ๆ เพิ่มสารอาหารอื่น ๆ เข้าไป
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย