backup og meta

โอเมก้า สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กที่พ่อแม่ควรรู้

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย กัญญ์วรา ยุทธ์ธนพิริยะ · แก้ไขล่าสุด 21/11/2021

    โอเมก้า สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กที่พ่อแม่ควรรู้

    โอเมก้า เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดความเสี่ยงองการเป็นโรคสมาธิสั้น ช่วยป้องกันโรคหอบหืด ทั้งยังช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างสมอง โดยโอเมกานั้นส่วยใหญ่อาจพบได้ในปลา ได้แก่ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาเทราต์ ปลาทูน่า

    คุณประโยชน์ของโอเมก้าต่อเด็ก ๆ 

    วัยเด็กจำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารต่าง ๆ อย่างเพียงพอเพื่อประโยชน์ในการเจริญเติบโตของทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะโอเมก้าซึ่งมีคุณค่าประโยชน์ ดังนี้

  • ลดความเสี่ยงของโรคสมาธิสั้นหรือ Attention-Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) โอเมก้ามีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เสริมความจำ กระตุ้นสมาธิ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดอาการสมาธิสั้นที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ได้
  • ช่วยป้องกันโรคหอบหืด เด็กที่มีอาการหอบหืดตั้งแต่ยังเล็ก ๆ พ่อแม่ควรใส่ใจกับอาหาร หมั่นเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยให้สุขภาพดี หนึ่งในนั้น คือ อาหารจำพวกปลา เพราะโอเมก้าช่วยป้องกันอาการหอบหืดได้ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานปลา น้ำมันตับปลา มีแนวโน้มของอาการหอบหืดน้อยลง
  • ช่วยในการนอนหลับ มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน การรับประทานอาหารที่ให้สารอาหารประเภทโอเมก้า ช่วยลดการรบกวนการนอนหลับได้
  • เสริมสร้างสมอง โอเมก้ามีส่วนช่วยในการทำงานของระบบสมอง การรับประทานสารอาหารจำพวกโอเมก้าเป็นประจำ มีส่วนในการเสริมความจำ ทักษะการเรียนรู้ และบำรุงสมอง
  • โอเมก้ากับปริมาณที่เด็กควรได้รับ

    สำหรับปริมาณที่ร่างกายต้องการโอเมก้านั้น จะถูกแบ่งตามช่วงอายุต่าง ๆ ดังนี้

    • อายุ 6-24 เดือน ควรได้รับ 5 มิลลิกรัม
    • อายุ 2-4 ปี ควรได้รับ 150 มิลลิกรัม
    • อายุ 4-6 ปี ควรได้รับ 200 มิลลิกรัม
    • อายุ 6-10 ปี ควรได้รับ 250 มิลลิกรัม
    • วัยรุ่น ควรได้รับ 1,000 มิลลิกรัม

    ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นจำนวนที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ร่างกายของเด็กนั้นต้องการโอเมก้าในปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะเพียงพอและเกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด

    อาหารที่เป็นแหล่งของโอเมก้า

    สำหรับแหล่งที่มาของโอเมก้านั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมาจากปลา โดยปลาที่สามารถให้โอเมก้าได้ดี ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาเทราต์ ปลาทูน่า ปลาบลูฟิช ปลาแอนโชวี่ ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ซึ่งปลาเหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งสำคัญของโอเมก้าที่จำเป็นต่อร่างกายเลยก็ว่าได้

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับโอเมก้า

  • โอเมก้าจากพืชไม่ดีเท่าโอเมก้าจากปลา
  • การทานอาหารเสริมที่เกี่ยวกับโอเมก้าควรจะต้องมีการจำกัดให้รับประทานอย่างเหมาะสมและเพียงพอ
  • โอเมก้าจากแคปซูลเจลาตินถือเป็นทางเลือกที่ดีในการบริโภค
  • ซึ่งสิ่งเหล่านี้บอกได้เลยว่า เป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เองก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้ หากมีความต้องการที่จะให้ลูกน้อยได้รับโอเมก้าที่มีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แนะนำเลยว่า จำเป็นจะต้องเน้นอาหารที่มีส่วนประกอบของโอเมก้ามากพอสมควร เพราะสิ่งที่คุณแม่ทานเข้าไปนั้น จะถูกส่งต่อไปยังทารกที่อยู่ในครรภ์นั่นเอง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย กัญญ์วรา ยุทธ์ธนพิริยะ · แก้ไขล่าสุด 21/11/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา