backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ควินิน (Quinine)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 08/02/2021

ข้อบ่งใช้

ยาควินินใช้สำหรับ

ยา ควินิน (Quinine) ใช้เพียงชนิดเดียว หรือใช้ร่วมกับยาอื่น ควินิน ใช้เพื่อรักษาโรคมาลาเรียที่เกิดจากยุงกัด ปรสิตมาลาเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายได้จากรอยกัดของยุง แล้วอาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงหรือตับ

ยา ควินิน นี้ใช้เพื่อฆ่าปรสิตมาลาเรียที่อาศัยอยู่ภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง ในบางกรณีคุณอาจต้องใช้ยาอื่น เช่น ไพรมาควิน (primaquine) เพื่อฆ่าปรสิตมาลาเรีย ที่อาศัยอยู่ในเนื่อเยื่อส่วนอื่น อาจต้องใช้ยาทั้งสองเพื่อรักษาอย่างหายขาดสมบูรณ์ และเพื่อป้องกันการกำเริบของการติดเชื้อ

ยา ควินิน นั้นอยู่ในกลุ่มของยาต้านมาลาเรีย (antimalarials) ไม่สามารถใช้เพื่อป้องกันโรคมาลาเรียได้

วิธีใช้ยาควินิน

ก่อนเริ่มใช้ยาควินิน และทุกครั้งที่รับยาเพิ่ม ควรอ่านคู่มือการใช้ยา และแผ่นพับข้อมูลสำหรับผู้ป่วย (ถ้าหากมี) ที่ได้จากเภสัชกร หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

รับประทานยาตามที่แพทย์กำหนดพร้อมกับอาหาร เพื่อลดอาการท้องไส้ปั่นป่วน โดยปกติคือ ทุกๆ 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 ถึง 7 วัน หรือตามที่แพทย์กำหนด

รับประทานยานี้ 2-3 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังจากรับประทานยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม ยาเหล่านั้นจะผูกติดกับยาควินิน และทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้อย่างเต็มที่

ขนาดยาและระยะเวลาในการรักษา ขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ หรือยาอื่นที่คุณใช้เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย และการตอบสนองต่อการรักษา

ขนาดยาสำหรับเด็กยังต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวอีกด้วย

ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง (รวมถึงยาสำหรับรักษาโรคมาลาเรียอื่นๆ) ตามที่แพทย์กำหนด อย่ารับประทานมากกว่าหรือน้อยกว่าที่กำหนด อย่าข้ามมื้อยา ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะครบกำหนดยา แม้ว่าอาการจะหายไปหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน การข้ามมื้อยาหรือหยุดใช้ยาเร็วเกินไป อาจทำให้การติดเชื้อนั้นรักษาได้ยากขึ้นและกำเริบอีกครั้ง

ยานี้จะทำงานได้ดีที่สุด หากมีปริมาณของยาภายในร่างกายอยู่ในระดับที่คงที่ ดังนั้น จึงควรใช้ยานี้โดยเว้นระยะให้เท่าๆ กัน เพื่อให้จำง่ายควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากเริ่มการรักษาผ่านไป 1-2 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือหากอาการไข้ของคุณกำเริบหลังจากเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว ควรติดต่อแพทย์ เพื่อหาว่าโรคมาลาเรียกำเริบหรือไม่

การเก็บรักษายาควินิน

ยาควินินควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง

ยาควินินบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งยาควินินลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาควินิน

ระหว่างที่กำลังพิจารณาเลือกใช้ยา แพทย์จะพิจารณาความเสี่ยงของการใช้ยาและประโยชน์ของยาเสียก่อน สำหรับยานี้ควรพิจารณาดังต่อไปนี้

โรคภูมิแพ้ 

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณเคยมีอาการที่ผิดปกติ หรืออาการแพ้ยานี้ นอกจากนี้ยังควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ ที่คุณเป็น เช่น แพ้อาหาร สีย้อม สารกันบูด หรือสัตว์ สำหรับยาที่หาซื้อเอง ควรอ่านฉลากยาหรือส่วนประกอบของยาอย่างละเอียด

เด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้ยานี้ และยังไม่มีงานวิจัยที่เหมาะสมในปัจจุบัน ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอายุ และประสิทธิภาพของยาควินินในเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี

ผู้สูงอายุ

ยังไม่มีงานวิจัยที่เหมาะสม ที่ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ที่จะจำกัดประสิทธิภาพของการใช้ยาควินินในผู้สูงอายุ

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่เพียงพอ ที่จะบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของการใช้ยานี้ ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนใช้ยา

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาควินิน

รับการรักษาในทันทีหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ

หยุดใช้ยาและแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น

  • เป็นไข้ หนาวสั่น สับสน อ่อนแรง เหงื่อออก
  • มีอาการอาเจียน ปวดท้อง ท้วงร่วงอย่างรุนแรง
  • มีปัญหากับการมองเห็นหรือการได้ยิน
  • ปวดหน้าอก หายใจติดขัด วิงเวียนอย่างรุนแรง หมดสติ หัวใจเต้นเร็วหรือรัว
  • ร้อนวูบวาบอย่างรุนแรง คือ มีความรู้สึกอุ่น แดง หรือเป็นเหน็บ
  • ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ หรือไม่ปัสสาวะเลย
  • หายใจอ่อนแรงหรือตื้น รู้สึกเหมือนจะหมดสติ
  • มีรอยช้ำง่าย มีเลือดออกที่ผิดปกติ (จมูก ปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก) มีจุดสีม่วงหรือแดงใต้ผิวหนัง
  • มีเลือดปนในปัสสาวะหรืออุจจาระ
  • เป็นไข้ เจ็บคอ และปวดหัวพร้อมกับมีแผลพุพอง ผิวลอก และผดผื่นผิวหนังสีแดงอย่างรุนแรง
  • เบื่ออาหาร
  • ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีดินเหนียว
  • ดีซ่าน (ผิวหนังหรือดวงตาเป็นสีเหลือง)

ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังต่อไปนี้

  • ปวดศีรษะ มองเห็นไม่ชัด การมองเห็นสีเปลี่ยนแปลง
  • วิงเวียนในระดับเบา รู้สึกโลกหมุน มีเสียงอื้อในหู
  • ท้องไส้ปั่นป่วน
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้กับยาดังต่อไปนี้ แพทย์อาจจะตัดสินใจไม่ใช้ยาในกลุ่มนี้เพื่อรักษาคุณ หรือเปลี่ยนยาบางตัวที่คุณกำลังใช้อยู่

  • แอมิแฟมไพรดีน (Amifampridine) แอสเทมมีโซล (Astemizole) ออโรไทรโอกลูโคส (Aurothioglucose)
  • ซิซาไพรด์ (Cisapride)
  • โดรนดาโรน (Dronedarone)
  • ฟลูโคนาโซล (Fluconazole)
  • คีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
  • ไทโอริดาซีน (Mesoridazine)
  • เนวฟินนาเวียร์ (Nelfinavir)
  • พิโมไซด์ (Pimozide) ไพเพอราควิน (Piperaquine) โพซาโคนาโซล (Posaconazole)
  • สปาร์ฟลอกซาซิน (Sparfloxacin)
  • ไทโอริดาซีน (Thioridazine)

โดยปกติแล้ว ไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้กับยาดังต่อไปนี้ แต่อาจจำเป็นในบางกรณี หากคุณได้รับใบสั่งยาทั้งคู่ร่วมกัน แพทย์อาจจะต้องเปลี่ยนขนาดยาหรือความถี่ในการใช้ยาตัวหนึ่งหรือทั้งคู่

  • อัลฟูโซซิน (Alfuzosin) อะลูมิเนียมคาร์บอเนตเบสิค (Aluminum Carbonate, Basic)อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminum Hydroxide) อะลูมิเนียมฟอสเฟต (Aluminum Phosphate) อะมิโอดาโรน (Amiodarone) อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) อะม็อกซาปีน (Amoxapine) อะนากรีไลด์ (Anagrelide)
  • อะโปมอร์ฟีน (Apomorphine) อะริพิพราโซล (Aripiprazole) อาร์เซนิกไตรออกไซด์ (Arsenic Trioxide) อาร์ทีมิเทอร์ (Artemether) อะเซนาปีน (Asenapine) อะซิโธรมัยซิน (Azithromycin)
  • บูเซอรีลิน (Buserelin)
  • คาร์บามาเซพีน (Carbamazepine) เซริทินิบ (Ceritinib) คลอโรควิน (Chloroquine) คลอร์โปรมาซีน (Chlorpromazine) ไซโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) ไซตาโลแพรม (Citalopram)
  • คลาริโทรมัยซิน (Clarithromycin) โคลมิพรามีน (Clomipramine) โคลซาปีน (Clozapine) โคบิซิสแตท (Cobicistat) ไครโซทินิบ (Crizotinib)
  • ดาบราเฟนิบ (Dabrafenib) ดาซาทินิบ (Dasatinib) ดีลามานิด (Delamanid) เดซิพรามีน (Desipramine) เดสโลเรลิน (Deslorelin) ไดไฮดรอกซีอะลูมิเนียม อะมิโนอะซิเตต (Dihydroxyaluminum Aminoacetate) ไดไฮดรอกซีอะลูมิเนียม โดเดียมคาร์บอเนต (Dihydroxyaluminum Sodium Carbonate) ไดโซไพราไมด์ (Disopyramide) โดลาซีตรอน (Dolasetron) ดอมเพอริโดน (Domperidone) ดรอเพอริดอล (Droperidol)
  • อิริโทรมัยซิน (Erythromycin) เอสซิตาโลแพรม (Escitalopram) เอสลิคาร์เฟเซพีน แอซิเตต (Eslicarbazepine Acetate)
  • ฟิงโกลิมอด (Fingolimod) ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine)
  • กาติฟลอกซาซิน (Gatifloxacin) เกมิฟรอกเซซิน (Gemifloxacin) โกนาโดเรลิน (Gonadorelin) โกเซเรลิน (Goserelin) แกรนิซีตรอน (Granisetron)
  • ฮาโลแฟนทรีน (Halofantrine) ฮาโลเพอริดอล (Haloperidol) ฮิสเทรลิน (Histrelin)
  • ไอบูทิไลด์ (Ibutilide) ไอเดลาลิซิบ (Idelalisib) ไอโลเพริโดน (Iloperidone) อิมิพรามีน (Imipramine) ไอวาบราดีน (Ivabradine)
  • ลาโคซาไมด์ (Lacosamide) ลาพาทินิบ (Lapatinib) ลิวโพรไลด์ (Leuprolide) ลีโวฟลอกซาซิน (Levofloxacin) ลูมีแฟนทรีน (Lumefantrine)
  • แมกกอลเดรต (Magaldrate) แมกนีเซียมคาร์บอเนต (Magnesium Carbonate) แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium Hydroxide) แมกนีเซียมไตรซิลิเกต (Magnesium Trisilicate) เมโฟลควิน (Mefloquine) เมทาโดน (Methadone) เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) มิฟีพริสโตน (Mifepristone) ไมโทเทน (Mitotane) มอกซิฟลอกซาซิน (Moxifloxacin)
  • นาฟาเรลิน (Nafarelin) เนวิราปีน (Nevirapine) นิโลตินิบ (Nilotinib) นอร์ฟลอกซาซิน (Norfloxacin) นอร์ทริปไทลีน (Nortriptyline)
  • ออกทรีโอไทด์ (Octreotide) ออฟลอกซาซิน (Ofloxacin) ออนดาเซทรอน (Ondansetron)
  • พาลิเพอริโดน (Paliperidone) แพนคูโรเนียม (Pancuronium) พาโซพานิบ (Pazopanib) เพอร์ฟลูเทรน ลิปิด ไมโครสเฟียร์ (Perflutren Lipid Microsphere) ไพรมิโดน (Primidone) โปรเคนเอไมด์ (Procainamide) โปรคลอเปอราซีน (Prochlorperazine) โปรเมทาซีน (Promethazine) โพรพาฟีโนน (Propafenone) โพรทริปทีลีน (Protriptyline)
  • ควิไทอะปีน (Quetiapine) ควินิดีน (Quinidine)
  • ราโนลาซีน (Ranolazine) ไรแฟมพิน (Rifampin) ริโทนาเวียร์ (Ritonavir)
  • ซาลเมเทอรอล (Salmeterol) ซีโวฟลูเรน (Sevoflurane) ซิลทูซิแมบ (Siltuximab) โซเดียมฟอสเฟต (Sodium Phosphate) โซเดียมฟอสเฟตไดเบสิค (Sodium Phosphate, Dibasic) โซเดียมฟอสเฟตโมโนเบสิค (Sodium Phosphate, Monobasic) โซลิเฟนาซิน (Solifenacin) โซราเฟนิบ (Sorafenib) โซทาลอล (Sotalol) ซักซินิลโคลีน (Succinylcholine) ซูนิทินิบ (Sunitinib)
  • เทลาแวนซิน (Telavancin) เทลิโทรมัยซิน (Telithromycin) เทอร์เฟนาดีน (Terfenadine) เตตราเบนาซีน (Tetrabenazine) ทิซานิดีน (Tizanidine) โทเรมิฟีน (Toremifene) ทราโซโดน (Trazodone) ฟีโนไทอาซีน (Trifluoperazine) ไทรมิพรามีน (Trimipramine) ทริปโทรีลิน (Triptorelin) โทรลีแอนโดมัยซิน (Troleandomycin) ทูโบคิวเรรีน (Tubocurarine)
  • แวนเดทานิบ (Vandetanib) วาร์เดนาฟิล (Vardenafil) เวมูราเฟนิบ (Vemurafenib) ไวแลนเทอรอล (Vilanterol) วินฟลูนีน (Vinflunine) โวริโคนาโซล (Voriconazole)
  • ไซพราซิโดน (Ziprasidone)

การใช้ยาดังต่อไปนี้ร่วมกัน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ แต่การใช้ยาทั้งสองร่วมกัน อาจเป็นการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

หากคุณได้รับใบสั่งยาทั้งคู่ร่วมกัน แพทย์อาจจะต้องเปลี่ยนขนาดยา หรือความถี่ในการใช้ยาตัวใดตัวหนึ่งหรือทั้งคู่

  • อะทอร์วาสแตติน (Atorvastatin)
  • ไซโคลสปอริน (Cyclosporine)
  • ไดจอกซิน (Digoxin)
  • ฟอสเฟนนีทอยน์ (Fosphenytoin)
  • ฟีโนบาร์บิทัล (Phenobarbital)
  • เฟนนีทอยน์ (Phenytoin)
  • ไรฟาเพนติน (Rifapentine)
  • เตตราไซคลีน (Tetracycline)

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาควินินอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาควินินอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ

  • ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้ว (Atrial fibrillation) หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Atrial Flutter) ซึ่งเป็นอาการหัวใจเต้นผิดปกติ
  • ภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ (Bradycardia)
  • โรคหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจขาดเลือด (myocardial ischemia)
  • ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalemia) โดยไม่ได้รับการรักษา
  • กลุ่มอาการซิคไซนัส (Sick sinus syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติของการเต้นของหัวใจชนิดหนึ่ง ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจทำให้ผลข้างเคียงรุนแรงขึ้น
  • ไข้แบลควอเตอร์ (Blackwater fever) ซึ่งเป็นความผิดปกติของเลือด
  • กลุ่มอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (Hemolytic uremic syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติของไตที่รุนแรง
  • ภาวะเกล็ดเลือดต่ำแบบไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic thrombocytopenia purpura) ซึ่งเป็นความผิดปกติของเลือด
  • ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia)
  • ภาวะเกล็ดเลือดต่ำและมีลิ่มเลือดอุดตัน (Thrombotic thrombocytopenic purpura) (a serious blood disorder) ไม่ควรใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงรุนแรงต่อยาควินิน
  • ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (Glucose-6-phosphate dehydrogenase deficiency)
  • ปัญหาเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น ระยะคิวทียาว (prolonged QT interval)
  • โรคตับขั้นรุนแรง
  • โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี (Myasthenia gravis)
  • โรคประสาทตาอักเสบ (Optic neuritis) ไม่ควรใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีอาการนี้
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจทำให้อาการแย่ลง
  • โรคไตขั้นรุนแรง
  • โรคตับระดับเบาหรือปานกลาง ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ผลของยาอาจเพิ่มขึ้น เพราะกำจัดยาออกจากร่างกายได้ช้าลง

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาควินินสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย (Malaria)

  • การรักษาโรคมาลาเรียจากเชื้อพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม (Plasmodium falciparum) ที่ไม่ซับซ้อน : 648 มก. รับประทานทุกๆ 8 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน
  • แนวทางจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (CDC) : 542 มก. เบส (650 มก. เกลือซัลเฟต) รับประทาน 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 3 ถึง 7 วัน

ขนาดยาควินินสำหรับเด็ก

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคมาลาเรีย (Malaria)

การรักษาโรคมาลาเรียที่ไม่ซับซ้อนเนื่องจากเชื้อพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม :

อายุ 16 ปีขึ้นไป

  • 648 มก. รับประทานทุกๆ 8 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน

แนวทางจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ : 8.3 มก. เบส/กก. (10 มก. เกลือซัลเฟต/กก.) รับประทาน 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 3 ถึง 7 วัน ขนาดยาสำหรับเด็กไม่ควรเกินขนาดยาของผู้ใหญ่

อายุน้อยกว่า 8 ปี 

  • การรักษาโรคมาลาเรียจากการติดเชื้อพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม (หรือเชื้ออื่นที่ไม่ได้ระบุ) ที่ดื้อต่อยาคลอโรควิน (chloroquine-resistant) หรือเชื้อที่ดื้อต่อยาอื่นไม่ทราบประเภทควรใช้ยาร่วมกับยาคลินดาไมซิน (clindamycin)
  • การรักษาโรคมาลาเรียจากการติดเชื้อพลาสโมเดียม ไวแว็กซ์ที่ดื้อต่อยาคลอโรควินควรใช้ยาร่วมกับยาไพรมาควินฟอสเฟต (primaquine phosphate)

8 ปีขึ้นไป

  • การรักษาโรคมาลาเรียจากการติดเชื้อพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัมที่ดื้อต่อยาคลอโรควินหรือเชื้อที่ดื้อต่อยาอื่นไม่ทราบประเภท ควรใช้ร่วมกับหนึ่งในยาดังต่อไปนี้ : ยาด็อกซีไซคลิน (doxycycline) ยาเตตราไซคลีน (tetracycline) หรือคลินดาไมซิน (clindamycin)
  • การรักษาโรคมาลาเรียจากการติดเชื้อพลาสโมเดียม ไวแว็กซ์ที่ดื้อต่อยาคลอโรควินควรใช้ยาร่วมกับยาด็อกซีไซคลินหรือหรือยาเตตราไซคลีน และร่วมกับยาไพรมาควินฟอสเฟต

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาแคปซูล : 324 มก.

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

อาการของการใช้ยาเกินขนาดมีดังนี้

  • มองเห็นไม่ชัดหรือการมองเห็นสีเปลี่ยนแปลง
  • มีอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • อัตราการเต้นของหัวใจเปลี่ยนแปลง
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ปวดท้อง
  • ท้องร่วง
  • มีเสียงอื้อในหูหรือการได้ยินลำบาก
  • มีอาการชัก
  • หายใจช้าหรือหายใจติดขัด

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 08/02/2021

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา