แคมเพสเตอรอล (Campesterol) เป็นสารประกอบที่พบได้ในพืช พบได้ในผลไม้ ผัก ถั่ว และเมล็ดพืช นิยมใช้ทำยารักษาโรค
ข้อบ่งใช้
แคมเพสเตอรอล (Campesterol) ใช้สำหรับ
แคมเพสเตอรอลนิยมใช้ในการรักษาสภาวะทางการแพทย์ ดังต่อไปนี้
- คอเลสเตอรอลสูง
- ปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะเนื่องจากต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia หรือ BPH)
- วัณโรค
- โรคนิ่ว
- ศีรษะล้าน
- แผลไหม้
- การติดเชื้อที่ต่อมลูกหมาก
- ปัญหาสมรรถภาพทางเพศ
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคสะเก็ดเงิน
- มะเร็งปากมดลูก
- อาการปวดกล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่ออ่อน
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง
- หอบหืด
- ไมเกรน
- โรคเหนื่อยล้าแบบเรื้อรัง
- วัยหมดประจำเดือน
- ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
แอคเพสเตอรอลอาจกำหนดให้ใช้สำหรับส่วนอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
การทำงานของแคมเพสเตอรอล
ยังมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของแคมเพสเตอรอลไม่เพียงพอ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า แคมเพสเตอรอลเป็นสารชีวเคมีที่คล้ายกับคอเลสเตอรอลจึงอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล โดยการจำกัดปริมาณของคอเลสเตอรอลที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้ยังสามารถมัดกับต่อมลูกหมากเพื่อช่วยลดอาการบวม (อักเสบ) ได้ด้วย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ แคมเพสเตอรอล
ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หาก
- คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
- คุณได้รับยาชนิดอื่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น
- คุณมีอาการแพ้สารจากแคมเพสเตอรอล หรือแพ้ยาชนิดอื่น หรือแพ้สมุนไพรชนิดอื่น
- คุณมีอาการไม่สบาย มีอาการผิดปกติ หรือภาวะทางการแพทย์อื่น ๆ
- คุณมีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด เนื้อสัตว์
กฎระเบียบสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายารักษาโรค คุณจึงควรศึกษาข้อมูลให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้แคมเพสเตอรอล ควรมีคุณประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้แคมเพสเตอรอลระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้งาน หรือสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนตัดสินใจใช้ทุกครั้ง
ความปลอดภัยต่อสภาวะสุขภาพอื่น ๆ
- โรคที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเก็บไขมัน
ห้ามใช้แคมเพสเตอรอลในคนที่มีไขมันมาก เพราะอาจทำให้เสี่ยงเกิดโรคหัวใจได้มากขึ้น
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้แคมเพสเตอรอล
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีผลข้างเคียงอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาต่อยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
แคมเพสเตอรอลอาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับแคมเพสเตอรอล ได้แก่
- อีเซทิไมบ์ (Ezetimibe) เป็นยาลดไขมันในเลือดที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย หากใช้ร่วมกับแคมเพสเตอรอลจะทำให้แคมเพสเตอรอลทำงานได้ลดลง
- ปราวาสแตติน (Pravastatin) เป็นยาลดไขมันในเลือด หากใช้ร่วมกับแคมเพสเตอรอล จะทำให้แคมเพสเตอรอลทำงานได้ลดลง
เพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาของแคมเพสเตอรอล
- ขนาดยาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต (BPH)
รับประทานแคมเพสเตอรอล 60- 130 มก. 2-3 ครั้ง/วัน
- ขนาดยาสำหรับผู้ป่วยที่คอเลสเตอรอลสูง
รับประทานแคมเพสเตอรอล 800 มก. ถึง 6 กรัม/วัน ก่อนมื้ออาหาร
ขนาดยาอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสมุนไพรอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ดีก่อนตัดสินใจใช้
รูปแบบของแคมเพสเตอรอล
แคมเพสเตอรอล อาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้
- ซอฟเจล
- เม็ด
[embed-health-tool-bmi]