สรรพคุณของ Marjoram มีอะไรบ้าง
สามารถใช้ส่วนดอก ใบ และน้ำมันในการทำยารักษาโรคและอาการต่างๆดังต่อไปนี้
- ไข้หวัดและน้ำมูกไหลของเด็กทารกและวัยหัดเดิน
- ไอแห้งเรื้อรัง
- จมูกและคออักเสบ
- เจ็บหู
- ระบบทางเดินอาหารมีปัญหา เช่น ไม่อยากอาหาร โรคตับ นิ่วในถุงน้ำดี, น้ำย่อย และอาการเกร็งหน้าท้อง
- ภาวะวัยหมดประจำเดือน
- อารมณ์แปรปรวนในช่วงมีประจำเดือน
- ช่วงมีประจำเดือน
- การไหลของน้ำนม
- โรคเบาหวาน
- ปัญหาในการนอน
- การเกร็งของกล้ามเนื้อ
- เคล็ดขัดยอก
- อาการเจ็บตามรอยฟกช้ำและหลัง
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- อาการตะคริวหน้าท้อง
- ภาวะซึมเศร้า
- อาการเวียนหัว
- ไมเกรน
- อาการปวดหัวประสาท
- ปวดเส้นประสาท
- ปรสิต
- ยาขับปัสสาวะ
- การไหลเวียนของเลือด
นอกจากนี้ Marjoram ยังสามารถนำไปใช้ในด้านอื่นๆได้อีกหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
กลไกการทำงาน Marjoram เป็นอย่างไรบ้าง
เนื่องจากงานวิจัยในปัจจุบันยังไม่มีการกล่าวถึงมากนักเกี่ยวกับการทำงานของ Marjoram ดังนั้นจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์และเภสัชกรหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อควรระวังในการใช้ Marjoram
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Marjoram มีอะไรบ้าง
หากคุณมีคุณสมบัติหรืออาการตามด้านล่างนี้ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนทาน
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยาที่จะสามารถรับประทานได้ควรมีแพทย์สั่งจ่ายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ยืนยันว่าสามารถทานได้ในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า
- ทานยาอื่นๆอยู่ ที่ไม่ได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารใน Marshmallow ยาและสมุนไพรต่างๆ
- ภูมิแพ้ชนิดอื่นๆเช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อมผม แพ้วัตถุกันเสีย หรือแพ้สัตว์ต่างๆ เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้ว ข้อตกลงเกี่ยวกับสมุนไพรจะมีข้อจำกัดน้อยกว่ายารักษาโรค แต่ยังคงเน้นความปลอดภัยอ้างอิงโดยงานวิจัยต่างๆซึ่งข้อได้เปรียบของการทานสมุนไพรเสริมคือการทราบถึงความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนการใช้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
การใช้ประโยชน์จาก Marjoram ให้ปลอดภัยควรทำอย่างไร
สำหรับเด็ก: Marjoram ไม่สามารถใช้ได้กับเด็ก งดใช้กับเด็กเป็นอันขาด
ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร : ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลใดที่ระบุถึงการใช้สมุนไพรนี้ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้
การผ่าตัด : งดใช้ Marjoram ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ผลข้างเคียงของ Marjoram
ผลข้างเคียงจากการทาน Marjoram มีอะไรบ้าง
หากใช้ Marjoram ในระยะยาวอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ และอาจทำให้ผิวและดวงตามีความระคายเคือง
ผลข้างเคียงดังกล่าวอาจไม่เกิดกับทุกคนและอาจมีผลข้างเคียงอื่นๆหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างยาของ Marjoram มีอะไรบ้าง
การทานสมุนไพรนี้อาจมีผลต่อยาที่ทานในปัจจุบัน ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ก่อนใช้
ยาที่สามารถทำปฏิกิริยากับ Marjoram และจะเกิดอาการต่างๆได้ดังต่อไปนี้
ยาลิเทียม (Lithium)
Marjoram จะลดประสิทธิภาพที่จะได้รับของร่างกายต่อยาลิเทียม ดังนั้นจะเกิดสารตกค้างและผลกระทบที่รุนแรง
ภาวะเลือดออกผิดปกติ: Marjoram อาจทำให้เลือดแข็งตัวขึ้นและเพิ่มโอกาสที่จะเป็นรอยฟกช้ำได้ง่ายและนำไปสู่ภาวะเลือดออกผิดปกติในที่สุด
อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง : Marjoram จะทำให้หัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆ
โรคเบาหวาน : Marjoramจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานที่กำลังทานยาที่รักษาอาการเบาหวานในขณะเดียวกันด้วย
การอุดตันทางเดินอาหาร : Marjoram อาจมีผลกระทบต่อผู้ที่มีการอุดตันในสำไส้ได้
แผล ปัญหาเกี่ยวกับปอด อาการชัก การอุดตันของทางเดินปัสสาวะ
ปริมาณการทาน Marjoram
ข้อมูลนี้ไม่ใช้คำแนะนำทางการแพทย์ ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ก่อนทาน Marjoram
ปริมาณการทาน Marjoram ที่เหมาะสม
ยาชง: Marjoram สดๆปริมาณ 2 ช้อนชาผสมน้ำ 1 ถ้วย สามารถดื่มวันละครึ่งหรือ1ถ้วยก็ได้
น้ำผลไม้: ใส่ Marjoramในปริมาณ 1 ช้อนชา ทานวันละ 3 มื้อ
โลชั่น: ใส่ Marjoram ในน้ำมันมะกอกและตากแดดเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
ปริมาณที่ได้รับอาจแตกต่างในแต่ละคนซึ่งขึ้นอยู่กับ อายุ สุขภาพ เป็นต้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่ควรจะได้รับเนื่องจากสมุนไพรเสริมไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่ควรจะได้รับเนื่องจากยาสมุนไพรไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป
รูปแบบของ Marjoram เป็นอย่างไร
Marjoram จะได้รับการบรรจุตามรูปแบบด้านล่างนี้
- ชาที่ทำมาจากใบและดอก
- น้ำมัน
- โลชั่น
***Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ วินิจฉัยหรือการรักษาแต่อย่างใด***
[embed-health-tool-bmi]