หากรู้สึกว่าน้ำหนักอาจมีส่วนทำให้เกิดการอักเสบของต่อมเหงื่อ ควรปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารที่มีประโยชน์ 2 สิ่งนี้ เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการลดน้ำหนัก ซึ่งจะช่วยลดการเสียดสีของร่างกายและลดการทำงานของฮอร์โมนบางอย่างที่อาจทำให้เกิดการอักเสบของต่อมเหงื่อได้
ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด การปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการออกแบบระบบการออกกำลังกายประจำวัน และแผนการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จึงเป็นส่วนที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
สภาพอากาศอาจส่งผลต่อความรุนแรงของการอักเสบของต่อมเหงื่อ บางคนอาจมีอาการเมื่อสัมผัสกับอากาศร้อนชื้น หากรู้สึกเหงื่อออกและไม่สบายตัวอยู่บ่อย ๆ ให้พยายามจัดการอุณหภูมิในพื้นที่ด้วยเครื่องปรับอากาศหรือพัดลม นอกจากนี้ควรทำผิวแห้งด้วยการซับเหงื่อด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ
สารระงับกลิ่นกายและผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อบางชนิด เป็นที่ทราบกันดีว่าอาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณใต้วงแขน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการอักเสบของต่อมเหงื่อ พยายามเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมต้านเชื้อแบคทีเรียจากธรรมชาติ เช่น เบกกิ้งโซดา และอ่อนโยนต่อผิวบอบบาง
สูบบุหรี่
หากเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ ควรจะทราบดีว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การสูบบุหรี่อาจทำให้การอักเสบของต่อมเหงื่อแย่ลง จากการศึกษาในปี ค.ศ. 2014 พบว่า การสูบบุหรี่มีความเชื่อมโยงกับการอักเสบของต่อมเหงื่อและทำให้การอักเสบของต่อมเหงื่อรุนแรงขึ้น
แม้การเลิกสูบบุหรี่ไม่ใช้เรื่องง่าย แต่มีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะช่วยให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ยังมีกลุ่มสนับสนุนการเลิกบุหรี่ ยาสำหรับผู้เลิกบุหรี่ที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และแอปสมาร์ทโฟนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ควรจะปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการเลิกบุหรี่
เสื้อผ้ารัดรูป
การอักเสบของต่อมเหงื่ออาจเกิดจากการใส่เสื้อผ้าก็เป็นได้ การเสียดสีที่เกิดจากการสวมเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ที่รัดรูป บางครั้งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง พยายามใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ และระบายอากาศได้ดี เมื่อประสบกับการอักเสบของต่อมเหงื่อ หลีกเลี่ยงเสื้อชั้นในและชุดชั้นในที่ทำจากยางยืดรัดรูปจะเป็นการดีที่สุด
อีกหนึ่งตั้งกระตุ้นที่ทำให้เกิดการอักเสบของต่อมเหงื่อ ก็คือ ความเครียด หากรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลบ่อยครั้ง อาจทำให้การอักเสบของต่อมเหงื่อทวีความรุนแรงขึ้น พยายามเรียนรู้เทคนิคการลดความเครียดขั้นพื้นฐาน เช่น การหายใจลึก ๆ การทำสมาธิ หรือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยให้สงบเมื่อรู้สึกตึงเครียด การฝึกเทคนิคการลดความเครียดเหล่านี้ใช้เวลาเพียงไม่นานและสามารถทำได้เกือบทุกที่
สรุปสาระสำคัญ
แม้ว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำอาจจะไม่สามารถรักษาการอักเสบของต่อมเหงื่อได้ แต่ก็อาจจะช่วยลดอาการและความรู้สึกไม่สบายบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าลองทำทุกอย่างแล้ว แต่การอักเสบของต่อมเหงื่อยังไม่ดีขึ้น ควรจะต้องไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย