ควรปรับพฤติกรรมที่ทำให้สิวอักเสบ หรือสิวเกิดใหม่ ด้วยการไม่นำมือไปสัมผัสกับใบหน้า เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกที่สัมผัสจากสิ่งรอบตัว จนเกิดการระคายเคืองต่อผิวและอุดตันในรูขุมขน
6. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด
แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลตที่อาจทำให้สิวอักเสบ แดง ทั้งยังเกิดรอยดำ โดยเฉพาะแสงแดดช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เพื่อไม่ให้อาการสิวแย่ลงควรทาครีมกันแดดที่มีข้อความระบุว่า Non-Comedogenic ป้องกันการเกิดสิวใหม่ และมีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าอย่างน้อย 20 นาทีก่อนออกจากบ้าน
7. หลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผม
ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอาจมีส่วนประกอบของน้ำหอม น้ำมัน โพเมด (Pomades) หากสารเหล่านี้สัมผัสกับผิวหนัง อาจทำให้อุดตันในรูขุมขน ระคายเคืองผิว และเพิ่มความมันบนใบหน้าจนเกิดสิว ดังนั้น ควรสระผมให้สะอาดเมื่อเสร็จจากการทำกิจกรรมในแต่วันที่มีการจัดแต่งทรงผม
8. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารบางชนิด เช่น ของทอด อาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลและเกลือสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิว เพื่อลดสิว ควรเพิ่มปริมาณการรับประทานผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี นอกจากนี้ ของหวานที่มีน้ำตาลผสมอยู่เป็นจำนวนมากอาจก่อให้เกิดสิว ผู้ที่เป็นสิวจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขนมหวาน
9. ทำความสะอาดสิ่งของที่สัมผัสกับหน้า
ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าขนหนูล้วนเป็นสิ่งที่สัมผัสกับใบหน้าโดยตรง และเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย จึงอาจทำให้สิ่งสกปรกและไปอุดตันในรูขุมขนได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรซักทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อช่วยลดสิว และป้องกันการเกิดสิวใหม่
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย