backup og meta

โรคตับกับระดับคอเลสเตอรอล ความสัมพันธ์ที่คุณควรรู้ เพื่อดูแลตัวเองให้ถูกต้อง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ปราโมทย์ วงศ์คำ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    โรคตับกับระดับคอเลสเตอรอล ความสัมพันธ์ที่คุณควรรู้ เพื่อดูแลตัวเองให้ถูกต้อง

    การทำงานของตับกับระดับคอเลสเตอรอลนั้นเกี่ยวข้องกันเป็นอย่างมาก โรคตับ และปัญหาที่เกิดขึ้นในตับสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และนี่คือความเกี่ยวข้องของ โรคตับกับระดับคอเลสเตอรอล ที่คุณควรรู้ เพื่อการป้องกันและดูแลตัวเอง

    ความสัมพันธ์ของ โรคตับกับระดับคอเลสเตอรอล

    การทำงานของตับส่งผลกระทบต่อระดับคอเลสเตอรอลอย่างไร

    หน้าที่หลักของตับ คือ การผลิตน้ำดี น้ำดีจะช่วยให้ร่างกายย่อยสลายไขมันและกำจัดคอเลสเตอรอลได้ หากตับของคุณได้รับความเสียหาย ประสิทธิภาพการทำงานของตับจะลดลง จนนำไปสู่การเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล จึงทำให้ไขมันและคอเลสเตอรอลจะก่อตัวขึ้นในตับและเลือด ยิ่งคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความเสียหายต่อตับได้มากเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น การก่อตัวของไขมันในตับอาจก่อให้เกิดโรคตับคั่งไขมันที่มีภาวะตับอักเสบ (Nonalcoholic Steatohepatitis : NASH) หรือไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์

    โรคตับที่อาจนำไปสู่ภาวะคอเลสเตอรอลสูง

    ปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานของตับ จะขัดขวางการทำงานของตับต่อคอเลสเตอรอล อาการบางชนิด ได้แก่

    • ไขมันพอกตับในคนที่ไม่ได้ดื่มสุรา

    โรคไขมันพอกตับในคนที่ไม่ได้ดื่มสุรา (NAFLD) เป็น ความผิดปกติของไตที่พบเห็นได้ทั่วไป จำนวน 25% ของประชากรทั่วโลกมีอาการของ NAFLD หากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นเบาหวานก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น

    NAFLD นำไปสู่การเป็นโรคไขมันในเลือดสูง (Dyslipedemia) ซึ่งเป็นอาการที่บ่งชี้ด้วยระดับคอเลสเตอรอล และสารประกอบแบบเดียวกันในเลือดที่ผิดปกติ NAFLD ยังเชื่อมโยงกับภาวะไขมันกระจายตัวผิดปกติ (lipodystrophy) ซึ่งหมายถึงความผิดปกติของร่างกายในการกระจายไขมัน

    อาการของ NAFLD มีหลากหลายรูปแบบ อย่างหนึ่งก็คือ ไขมันพอกตับแบบร้ายแรง (NASH) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่อาจนำไปสู่โรคตับแข็ง ตับล้มเหลว และมะเร็งตับ

    • ตับแข็ง

    โรคตับแข็งเกิดจากพฤติกรรมการดื่มหรือโรคบางชนิด เช่น โรคตับอักเสบ ที่สร้างความเสียหายให้ตับในระยะยาว โรคตับแข็งจะสร้างบาดแผลทิ้งไว้ในตับ และขัดขวางการเผาผลาญของตับ จึงอาจนำไปสู่การเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอล

    นอกจากโรคตับที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงต่อตับได้ก็คือ ยา นั่นเอง ตับมีหน้าที่สำคัญในการเผาผลาญสารเคมีในร่างกาย ยาชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ ยาที่ซื้อได้เองจากร้านขายยา หรือยาเสพติด สามารถทำให้ตับเสียหายได้ทั้งสิ้น

    ผลกระทบของคอเลสเตอรอลสูง

    ระดับของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ที่สูงเกินไป จะทำให้ไขมันก่อตัวขึ้นในหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนสู่หัวใจยากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ไปทำลายคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดคราบพลัคไขมัน (ไขมันที่สะสมจนเกิดเป็นแผ่นไขมันในหลอดเลือด) ออกไปได้ ทำให้เสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหัวใจวายมากขึ้น

    ทางแก้ไขหาก คอเลสเตอรอลสูง

    การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และอาหารบางชนิด จะช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ เราควรรักษาระดับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

    เมื่อไหร่ที่ควรไปหาหมอ

    หากมีสัญญาณและอาการที่บ่งชี้ว่าตับกำลังมีปัญหาเหล่านี้ คุณควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

    • เป็นดีซ่าน
    • เหนื่อยล้า อ่อนแรง
    • เบื่ออาหาร
    • มีของเหลวสะสมในช่องท้อง
    • เกิดรอยช้ำบ่อยครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ปราโมทย์ วงศ์คำ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา