ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ (thyroid disorder) เป็นอาการที่ส่งผลต่อต่อมไทรอยด์ ต่อมที่มีรูปร่างคล้ายผีเสื้อ และอยู่ด้านหน้าของคอ ต่อมไทรอยด์มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบเผาผลาญหลายระบบทั่วทั้งร่างกาย ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์แต่ละชนิด ล้วนส่งผลต่อโครงสร้าง หรือการทำงานของต่อมไทรอยด์
ต่อมไทรอยด์อยู่ใต้ลูกกระเดือกโอบอยู่รอบๆ หลอดลม เนื้อเยื่อบางๆ ที่กลางต่อมเรียกว่าคอคอด (isthmus) เชื่อมกลีบของต่อมไทรอยด์ในแต่ละด้าน ต่อมไทรอยด์ใช้ไอโอดีนเพื่อสร้างฮอร์โมนที่สำคัญ ฮอร์โมนไทรอกซิน (Thyroxine หรือ T4) เป็นฮอร์โมนหลักที่ผลิตโดยต่อมนี้ หลังจากร่างกายลำเลียงฮอร์โมนไทรอกซินผ่านกระแสเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ฮอร์โมนไทรอกซินส่วนเล็กๆ ที่ออกมาจากต่อมไทรอยด์ จะเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน (triiodothyronine หรือ T3) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์มากที่สุด
การทำงานของต่อมไทรอยด์ถูกควบคุมโดยการตอบสนองของกลไกที่เกี่ยวข้องกับสมอง เมื่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ต่อมไฮโพทาลามัส (hypothalamus) ในสมอง จะผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่าฮอร์โมนสำหรับปล่อยไทโรโทรปิน (thyrotropin releasing hormone หรือ TRH) ที่ทำให้ต่อมใต้สมอง (ตั้งอยู่ที่ส่วนฐานของสมอง) ปล่อยฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (thyroid stimulating hormone หรือ TSH) ฮอร์โมนดังกล่าวจะกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ปล่อยฮอร์โมนไทรอกซินเพิ่มขึ้น
เนื่องจากต่อมไทรอยด์ถูกควบคุมโดยต่อมใต้สมอง และต่อมไฮโพทาลามัส ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเหล่านี้ อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ และทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติได้เช่นกัน
ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ประเภทต่างๆ ได้แก่
ปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ได้แก่
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ได้แก่
ก้อนเนื้อที่ต่อมไทรอยด์
ก้อนเนื้อดังกล่าวเป็นก้อนเนื้อนูนหรือผิดปกติภายในต่อมไทรอยด์ ก้อนเนื้อดังกล่าวอาจมีเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อน รวมถึงอาจมีขนาดต่างกัน หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ผิดปกติ อาจทำให้เกิดอาการโรคที่สัมพันธ์กับการกดทับโครงสร้างอวัยวะบริเวณใกล้เคียง
อาจมีอาการหรือสัญญาณอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึง หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับสัญญาณเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์
หากคุณมีอาการหรือสัญญาณใดๆ ตามที่กล่าวไปข้างต้นหรือมีคำถาม ควรปรึกษาแพทย์ ร่างกายแต่ละคนตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือปรึกษาแพทย์ว่า อะไรเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณ
ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์
ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ อาจเป็นผลมาจากการที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ไม่เพียงพอ อาการดังกล่าวอาจเกิดจากปัญหาที่ต่อมไทรอยด์ ต่อมใต้สมอง หรือต่อมไฮโพทาลามัสก็ได้
ส่วนภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ใช้อธิบายถึงการที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ซึ่งเป็นอาการที่หายากกว่าภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ สาเหตุทั่วไปที่อาจทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ได้แก่
โรคคอพอก
โรคคอพอกเป็นโรคที่ไม่ได้จำเพาะโดยตรง โรคคอพอกอาจสัมพันธ์กับภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือการทำงานที่ผิดปกติของต่อมไทรอยด์
ก้อนเนื้อที่ต่อมไทรอยด์
ก้อนเนื้อเป็นก้อนเนื้อทั่วไป หรือก้อนเนื้อผิดปกติภายในต่อมไทรอยด์ ก้อนเนื้อดังกล่าวอาจเกิดจากเนื้องอกชนิดถุงน้ำ (benign cysts) เนื้องอกที่ไม่ร้ายแรง หรือที่พบได้น้อยคือเกิดจากมะเร็งต่อมไทรอยด์
มะเร็งต่อมไทรอยด์
มะเร็งต่อมไทรอยด์เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในผู้หญิง มากกว่าผู้ชายหรือเด็ก ประมาณ 2 ใน 3 ของกรณีที่เกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปี มะเร็งต่อมไทรอยด์มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับประเภทของเซลล์ภายในต่อมไทรอยด์ ซึ่งกลายเป็นเซลล์มะเร็ง กรณีส่วนมากของมะเร็งต่อมไทรอยด์จะมีอัตราการรอดชีวิตสูง โดยเฉพาะเมื่อตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรก
โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
นอกเหนือจากการซักประวัติอย่างละเอียด และการตรวจร่างกาย แพทย์จะใช้การตรวจพิเศษเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
การตรวจเลือดมักจะทำเพื่อวัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ และฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ แพทย์อาจจะตรวจเลือดเพื่อระบุแอนติบอดีที่ต้านเนื้อเยื่อในต่อมไทรอยด์ เช่น การวัดความเข้มข้นของแอนติบอดีต้านไทโรโกลบุลิน (anti-thyroglobulin) แอนติบอดีไทโรเพรอกซิเดส (anti-thyroperoxidase) หรือแอนติบอดีกระตุ้นตัวรับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH receptor stimulating antibodies)
การตรวจด้วยเทคนิคการสร้างภาพ (Imaging test) มักจะใช้เมื่อเห็นก้อนเนื้อที่ต่อมไทรอยด์ หรือต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ผิดปกติ การอัลตราซาวนด์อาจช่วยให้เห็นลักษณะของเนื้อเยื่อภายในต่อม และมักจะทำให้เห็นถุงน้ำ หรือการเกาะของหินปูน แต่การตรวจด้วยอัลตราซาวด์ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างก้อนเนื้อที่ไม่รุนแรงกับก้อนเนื้อที่รุนแรงได้
การตรวจต่อมไทรอยด์โดยใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสี มักจะใช้เพื่อประเมินการทำงานของก้อนเนื้อในต่อมไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์เป็นอวัยวะเดียวที่ดูดซึมไอโอดีน ดังนั้น เมื่อร่างกายได้รับไอโอดีนกัมมันตรังสี ต่อมไทรอยด์จะดูดซึมสารนั้นไว้ การตรวจด้วยเทคนิคการสร้างภาพจะแสดงให้เห็นถึงการดูดซึมไอโอดีนกัมมันตรังสีของเนื้อเยื่อต่อมไทรอยด์ที่เป็นปกติ บริเวณหรือก้อนเนื้อที่ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป (hyperfunctioning) จะแสดงให้เห็นถึงการรับไอโอดีนเพิ่มขึ้น ก้อนเนื้อเหล่านี้จะถูกเรียกว่าก้อนเนื้อหรือบริเวณ “ร้อน’ ในทางตรงข้าม ก้อนเนื้อ “เย็น’ จะเป็นบริเวณที่รับไอโอดีนได้ลดลง ก้อนเนื้อ “เย็น’ ไม่ได้ผลิตฮอร์โมนส่วนเกิน และบางครั้งก็แสดงถึงอาการของโรคมะเร็ง
การเจาะดูดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดเล็ก และการตัดชิ้นเนื้อ (biopsy) เป็นวิธีที่ผ่าเอาตัวอย่างของเซลล์หรือเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์ เพื่อตรวจและวินิจฉัยโดยนักพยาธิวิทยา ซึ่งเป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนด้านการวินิจฉัยอาการ โดยใช้ตัวอย่างของเนื้อเยื่อ การเจาะดูดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดเล็กจะใช้เข็มยาวบางเพื่อดูดตัวอย่างเซลล์จากต่อมไทรอยด์ วิธีดังกล่าวอาจทำในโรงพยาบาล บางครั้งใช้วิธีอัลตราซาวด์เพื่อเป็นแนวทางในการเจาะดูดชิ้นเนื้อ การตัดชิ้นเนื้อเป็นการผ่าตัด เพื่อดูตัวอย่างของเนื้อเยื่อ
ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์อาจรักษาได้ด้วยยา หรือในบางกรณีจะใช้การผ่าตัด การรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของโรคที่ต่อมไทรอยด์
ยาเพื่อรักษาต่อมไทรอยด์
อาจใช้ยาเพื่อแทนที่ฮอร์โมนไทรอยด์ที่พร่องไป ในภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ โดยจะมีการให้ฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ในรูปของยาเม็ดสำหรับรับประทาน เมื่อมีอาการของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน อาจใช้ยาเพื่อลดการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ หรือป้องกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์ปล่อยฮอร์โมน อาจใช้ยาชนิดอื่นเพื่อช่วยจัดการอาการของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน เช่น ยาที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ หากยาไม่สามารถควบคุมภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินได้ อาจใช้การผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (radioactive ablation) การผ่าตัดอาจรวมถึงการให้ขนาดยาไอโอดีกัมมันตรังสี ที่จะทำลายเนื้อเยื่อต่อมไทรอยด์เฉพาะจุด
การผ่าตัดต่อมไทรอยด์
การผ่าตัดเพื่อผ่าคอพอกที่มีขนาดใหญ่ หรือก้อนเนื้อในต่อมไทรอยด์ที่ทำงานมากเกินไปออก การผ่าตัดเป็นเรื่องจำเป็นหากผู้ป่วยมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ หากต่อมไทรอยด์ถูกผ่าออกหมด ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ตลอดชีวิต การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ยังใช้ในผู้ป่วยโรคคอพอกตาโปน (การตัดต่อมไทรอยด์ออกเกือบหมด) และเป็นการรักษาที่เป็นทางเลือกก่อนใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสี และยารักษาไทรอยด์ ปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้วิธีผ่าตัดกันแล้ว
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองต่อไปนี้ อาจช่วยให้คุณจัดการกับโรคนี้ได้
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย