การดื่มกาแฟดำที่ไม่ใส่ครีมเทียม น้ำตาล หรือสารให้ความหวานอื่น ๆ อาจช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย เนื่องจากกาแฟดำมีคาเฟอีนซึ่งเป็นสารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (Xanthine alkaloids) ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนที่จะไปทำปฏิกิริยากับกรดไขมันในร่างกาย ส่งสัญญาณให้กระบวนการสลายไขมันทำงานหนักขึ้น จึงอาจเป็นประโยชน์ในการลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะในผู้ที่ออกกำลังกาย การดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาผลาญไขมันไปเป็นพลังงานได้มากขึ้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the International Society of Sports Nutrition เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 ศึกษาความเกี่ยวข้องระหว่างคาเฟอีนและอัตราการเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้มากที่สุด (Maximal Fat Oxidation หรือ MFO) จากการทดสอบด้วยวิธีการออกกำลังกาย (Graded Exercise Testing หรือ GXT) โดยให้กลุ่มตัวอย่างผู้ชายจำนวน 15 คน อายุประมาณ 25-39 ปี ที่ไม่ได้ดื่มกาแฟทุกวันรับประทานคาเฟอีนหรือยาหลอกในปริมาณ 3 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก่อนการออกกำลังกาย เป็นเวลา 7 วัน พบว่า การรับประทานคาเฟอีนก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที มีอัตราการเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้มากที่สุด ประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันสูงสุดขณะที่ออกกำลังกาย และประสิทธิภาพในการใช้ออกซิเจนสูงสุดขณะออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการรับประทานยาหลอก
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition Research เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 ศึกษาเกี่ยวกับผลของคาเฟอีนต่อกระบวนการเมตาบอลิซึม กระบวนการอักเสบจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และสมรรถภาพทางกาย พบว่า คาเฟอีนสามารถใช้เป็นสารเออร์โกเจนิก (Ergogenic aids) หรือสารเพิ่มสมรรถภาพทางกายที่ใช้กระตุ้นความสามารถในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปริมาณกาแฟดำที่ควรบริโภคต่อวัน
ปริมาณกาแฟดำและเครื่องดื่มคาเฟอีนที่ควรบริโภคต่อวัน อาจมีดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย