มะเร็งเต้านม หลายคนยังคงอาจคิดว่าเกิดขึ้นแค่เฉพาะกับผู้หญิงเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าผู้ชายก็สามารถเป็นได้เหมือนกัน เพียงแต่ส่วนใหญ่มักจะพบในผู้หญิง หากคุณมีข้อสงสัยลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมให้มากขึ้นกันเถอะ
มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) คือโรคมะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากเนื้อเยื่อในเต้านม มีอยู่สองประเภทหลักดังนี้
ในกรณีหายาก มะเร็งเต้านมก็อาจมีจุดกำเนิดจากส่วนอื่นของเต้านมได้
ตลอดช่วงชีวิต จะพบว่า 1 ใน 8 ของผู้หญิงเป็นโรคมะเร็งเต้านม สัดส่วนของโรคมะเร็งนั้น เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของความเจ็บป่วยและการเสียชีวิตทั่วโลก ด้วยเพราะมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 14 ล้านราย และมีการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเมื่อปี 2012 ประมาณ 8.2 ล้านราย ซึ่งมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตที่พบได้มากที่สุด
ในช่วงต้นของโรคมะเร็งเต้านมนั้นจะไม่เกิดอาการใด ๆ ดังนั้น จึงควรตรวจเต้านมเป็นประจำ เมื่อโรคมะเร็งเริ่มเติบโตขึ้นก็อาจจะมีอาการดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ชาย อาการของมะเร็งเต้านมมีทั้งมีก้อนในเต้านม และมีอาการปวด หรือกดเจ็บที่เต้านม
อาการของโรคมะเร็งเต้านมขั้นรุนแรง มีดังนี้
โรคมะเร็งและการรักษาโรคมะเร็งอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้
โรคมะเร็งบางชนิดอาจไม่ได้ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดใด ๆ แต่หากเกิดอาการก็สามารถใช้ยาและวิธีการรักษาอื่น ๆ รักษาอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาการเหนื่อยล้าในผู้ที่เป็นโรคมะเร็งนั้นเกิดได้จากสาเหตุหลายประการแต่ส่วนใหญ่สามารถจัดการได้ อาการเหนื่อยล้าที่เกี่ยวข้องกับการทำเคมีบำบัดหรือการฉายรังสีบำบัดนั้นเป็นเรื่องปกติและมักจะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราว
โรคมะเร็งหรือการรักษาโรคมะเร็งอาจทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่ม การรักษาอาจช่วยบรรเทาอาการนี้ได้
โรคมะเร็งหรือการรักษาโรคมะเร็งบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ในบางครั้งแพทย์อาจคาดเดาได้ว่าการรักษานั้นอาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ยาและการรักษาอื่น ๆ อาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้
โรคมะเร็งหรือการรักษาโรคมะเร็งสามารถส่งผลกระทบกับลำไส้และทำให้เกิดอาการท้องร่วงหรือท้องผูกได้
โรคมะเร็งหรือการรักษาโรคมะเร็งอาจทำให้เกิดอาการน้ำหนักลดได้ เนื่องจากเซลล์มะเร็งนั้นจะขโมยเอาสารอาหารจากเซลล์ปกติไปและทำให้เซลล์เหล่านั้นขาดสารอาหาร โดยอาการน้ำหนักลดส่วนใหญ่มักไม่เกี่ยวกับปริมาณของแคลอรี่และชนิดของอาหารที่คุณรับประทาน
อาการนี้รักษาได้ยาก ส่วนใหญ่แล้วจะรักษาโดยการให้สารอาหารผ่านทางท่อเข้าสู่ช่องท้องหรือหลอดเลือดดำนั้นไม่สามารถช่วยเรื่องอาการน้ำหนักลดได้
มะเร็งสามารถทำให้ความสมดุลตามปกติของเคมีในร่างกายคุณแย่ลงได้และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง สัญญาณและอาการของความไม่สมดุลของเคมีนั้นมีทั้งกระหายน้ำอย่างรุนแรง ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก และสับสน
มะเร็งสามารถกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้ ๆ และทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายเกิดอาการปวดและสูญเสียการทำงาน มะเร็งที่เกี่ยวข้องกับสมองนั้นสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวและมีสัญญาณและอาการคล้ายกับโรคหลอดเลือดสมอง เช่นอาการอ่อนแรงที่ด้านหนึ่งของร่างกาย
ในบางกรณีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจมีปฏิกิริยาต่อการมีอยู่ของเซลล์มะเร็งด้วยการโจมตีเซลล์ที่แข็งแรง เรียกว่ากลุ่มอาการพารานีโอพลาสติก (paraneoplastic syndrome) ซึ่งเป็นอาการที่หายากและสามารถทำให้เกิดสัญญาณและอาการต่าง ๆ ได้ เช่น การเดินลำบากหรืออาการชัก
เมื่อโรคมะเร็งรุนแรงขึ้นก็อาจเกิดการแพร่กระจาย (metastasize) ไปสู่ส่วนอื่นในร่างกาย ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคมะเร็ง
ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งนั้นมีความเสี่ยงในการกลับไปเป็นโรคมะเร็งอีกครั้ง โรคมะเร็งบางชนิดอาจมีความเสี่ยงในการกำเริบมากกว่าโรคมะเร็งชนิดอื่น โปรดสอบถามแพทย์ถึงวิธีในการลดความเสี่ยงของการกำเริบของโรคมะเร็ง แพทย์อาจจะแนะนำแผนการดูแลสุขภาพหลังจากการรักษา รวมทั้งการสแกนและตรวจร่างกายเป็นระยะหลายเดือนและหลายปีหลังจากการรักษาเพื่อมองหาโรคมะเร็งที่อาจกำเริบอีกครั้ง
หากคุณตรวจพบก้อนเนื้อ หรือความเปลี่ยนแปลงของเต้านม ควรติดต่อแพทย์เพื่อทำการประเมินผลในทันที ถึงแม้ผลการตรวจเต้านมด้วยแมมโมแกรม (Mammogram) จะเป็นปกติก็ตาม
โรคมะเร็งนั้นเริ่มต้นขึ้นที่เซลล์ หน่วยโครงสร้างที่ผลิตเนื้อเยื่อและอวัยวะทั้งหมดในร่างกาย รวมถึงเต้านม
เซลล์ปกติในเต้านมและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายจะเติบโตและแบ่งตัวเพื่อสร้างเซลล์ใหม่ตามความจำเป็น เมื่อเซลล์ปกติแก่ตัวลงหรือเสียหาย เซลล์เหล่านั้นก็จะตายไป และมีเซลล์ใหม่มาแทนที่
ในบางครั้งกระบวนการนี้อาจจะเกิดความผิดพลาด เซลล์ใหม่ก่อตัวขึ้นในตอนที่ร่างกายไม่ต้องการ และเซลล์ที่แก่หรือเสียหายไม่ได้ตายไปแบบที่ควรจะเป็น การสะสมของเซลล์ส่วนเกินมักจะกลายเป็นเนื้อเยื่อขนาดใหญ่ เรียกว่าก้อนเนื้อหรือเนื้องอก
เนื้องอกในเต้านมนั้นอาจเป็นชนิดไม่ร้าย (benign) หรือไม่เป็นมะเร็ง หรือเป็นเนื้อร้าย (malignant) คือเป็นมะเร็งก็เป็นได้
ลักษณะของเนื้องอกไม่ร้าย
ลักษณะของเนื้อร้าย
เซลล์มะเร็งเต้านมนั้นสามารถแพร่กระจายได้ ด้วยการแตกตัวออกจากเนื้องอกในเต้านม จากนั้นจึงเดินทางผ่านหลอดเลือดหรือหลอดน้ำเหลืองไปสู่ส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย หลังจากแพร่กระจาย 3 ครั้ง เซลล์มะเร็งอาจจะเกาะกับเนื้อเยื่ออื่น ๆ และเติบโตขึ้นมาเป็นเนื้องอกใหม่ ที่อาจสร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อเหล่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น เซลล์มะเร็งนั้นสามารถแพร่กระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใกล้ ๆ เช่น กลุ่มของต่อมน้ำเหลืองใกล้เต้านมที่อยู่ใต้แขน (รักแร้) กลุ่มต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า กลุ่มต่อมน้ำเหลืองในหน้าอกหลังกระดูกหน้าอก
เมื่อมะเร็งเต้านมแพร่กระจายจากจุดเดิมที่มันอยู่ ไปสู่ส่วนอื่นในร่างกาย เนื้องอกใหม่ก็จะมีเซลล์ที่ผิดปกติแบบเดียวกันและชื่อเดียวกันกับเนื้องอกดั้งเดิม เช่น หากมะเร็งเต้านมนั้นแพร่กระจายไปสู่ปอด ก็จะถือว่าเซลล์มะเร็งที่อยู่ในปอดนี้แท้จริงแล้วคือเซลล์มะเร็งเต้านม และเรียกว่า โรคมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย ไม่ใช่มะเร็งปอด
ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้มีดังนี้
ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณมีอายุเพิ่มมากขึ้น กรณีของมะเร็งเต้านมที่รุนแรงส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงที่อายุมากกว่า 50 ปี ผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน แต่โอกาสจะน้อยกว่าผู้หญิงมาก
คุณจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น หากญาติใกล้ชิดเคยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่
ความบกพร่องยีนที่พบได้มากที่สุดอยู่ในยีน บีอาร์ซเอ1 (BRCA1) และบีอาร์ซีเอ2 (BRCA2) โดยปกติแล้วยีนเหล่านี้จะสร้างโปรตีนที่ช่วยปกป้องคุณจากโรคมะเร็ง หากพ่อแม่ส่งต่อยีนที่บกพร่องมาให้คุณ คุณก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น ผู้หญิงที่มีหนึ่งในยีนที่บกพร่องนี้จะมีความเสี่ยงเพิ่มถึง 80% ในการเกิดมะเร็งเต้านมในช่วงหนึ่งของชีวิต
ผู้หญิงที่มีประจำเดือนเร็ว (ก่อนอายุ 12 ปี) หรือผ่านวัยหมดประจำเดือนช้า (หลังจากอายุ 55 ปี) จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ มีดังนี้
การดื่มสุรามากกว่า 1 ถึง 2 แก้วต่อวันอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านม
ผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์หรือหรือมีลูกคนแรกหลังจากที่อายุ 30 ปี มีความเสี่ยงมากกว่าที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม การตั้งครรภ์มากกว่า 1 ครั้ง หรือการตั้งครรภ์ตั้งแต่ยังสาวจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งเต้านม
ผู้หญิงที่ใช้ยาไดเอธิลสติลเบสตรอลเพื่อป้องกันการแท้งบุตรอาจมีความเสี่ยงในการเป้นโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้นหลังจากอายุ 40 ปี มีการใช้ยานี้กับผู้หญิงเมื่อช่วงปีค.ศ. 1949 ถึงช่วงปีค.ศ. 1960
คุณจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นหากคุณผ่านการทำฮอร์โมนบำบัดด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) เป็นเวลาหลายปี
โรคอ้วนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเต้านม แม้ว่าความเกี่ยวข้องนี้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วนจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากกว่า ซึ่งอาจทำให้โรคมะเร็งเต้านมขึ้น
หากคุณรับการฉายรังสีบำบัด (radiation therapy) เพื่อรักษาโรคมะเร็งที่บริเวณหน้าอกในสมัยเด็กหรือช่วงหนุ่มสาว คุณก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงขึ้น ยิ่งเริ่มการฉายรังสีเมื่ออายุน้อยเท่าไหร่ และใช้ขนาดยาสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับการฉายรังสีขณะที่เต้ามนมเริ่มมีพัฒนาการ
การปลูกถ่ายเต้านม การใช้สารระงับเหงื่อ (antiperspirants) และการใช้บราเสริมโครง (Underwired Bra) ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งเต้านม ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างโรคมะเร็งเต้านมกับยาฆ่าแมลง
ข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แพทย์อาจวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมในช่วงแรก ด้วยการซักประวัติทางการแพทย์และตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบสัญญาณของสุขภาพทั่วไป รวมทั้งตรวจสอบสัญญาณของการเป็นโรค เช่น ก้อนเนื้อหรือสิ่งอื่น ๆ ที่ผิดปกติ
การตรวจสอบเพื่อวินิจฉัยและเฝ้าสังเกตผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม มีดังนี้
การตรวจสอบเต้านมโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ แพทย์จะสัมผัสที่บริเวณเต้านมและใต้วงแขนอย่างละเอียดเพื่อหาก้อนเนื้อหรือสิ่งที่ผิดปกติ
การตรวจเอกซเรย์เต้านมที่ใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป
กระบวนการที่ใช้คลื่นเสียงพลังงานสูง หรืออัลตราซาวด์ (ultrasound) เพื่อสะท้อนภาพของเนื่อเยื่อและอวัยวะภายใน เสียงสะท้อนนั้นจะสร้างภาพของเนื้อเยื่อในร่างกายเรียกว่าโซโนแกรม (sonogram) สามารถพิมพ์รูปภาพนั้นเพื่อดูภายหลังได้
กระบวนการที่ใช้แม่หล็ก คลื่นวิทยุ และคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างชุดของภาพรายละเอียดของเต้านมทั้งสองข้าง กระบวนการนี้เรียกว่าการสร้างภาพจากการเรโซแนนซ์ของนิวเคลียสด้วยแม่เหล็ก (NMRI)
กระบวนการในการตรวจตัวอย่างของเลือดเพื่อตรวจสอบปริมาณของสารบางชนิดที่อวัยวะและเนื้อเยื่อปล่อยเข้าสู่เลือด ปริมาณของสารที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะน้อยกว่าหรือมากกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณของโรคได้
นักพยาธิวิทยาจะตัดเอาเซลล์หรือเนื้อเยื่อไปตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อตรวจสอบหาสัญญาณของโรคมะเร็ง หากพบก้อนเนื้อในเต้านมก็อาจมีการทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจต่อไป
การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อตรวจหาโรคมะเร็งเต้านมนั้นมีอยู่ 4 ประเภท ได้แก่
หากแพทย์ทราบว่าคุณเป็นโรคมะเร็งเต้านม จะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มขึ้นเป็นระยะ เพื่อดูว่าโรคมะเร็งนั้นแพร่กระจายหรือไม่ การตรวจเป็นระยะนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการกำหนดแนวทางในการรักษามะเร็งเต้านมของคุณ และยังทำให้ทราบว่าควรคาดหวังอะไรในอนาคต
ระยะของโรคมะเร็งเต้านมนั้นมีทั้งแต่ 0-4 ยิ่งมีระยะสูงเท่าไหร่ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
การรักษานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านม เช่น
การรักษาโรคมะเร็งนั้นอาจเป็นการรักษาเฉพาะที่หรือทั่วทั้งร่างกายก็ได้
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะรับการรักษาหลายชนิดร่วมกัน สำหรับโรคมะเร็งในระยะที่หนึ่ง สอง หรือสาม เป้าหมายหลักจะเป็นการรักษา และป้องกันไม่ให้โรคมะเร็งกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง สำหรับโรคมะเร็งระยะที่สี่ เป้าหมายจะเป็นการทำให้อาการดีขึ้น และช่วยให้มีชีวิตอยู่นานขึ้น ในกรณีส่วนใหญ่โรคมะเร็งระยะที่สี่นั้น ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
หลังจากการรักษาอาจต้องรับประทานยาในช่วงเวลาหนึ่ง และอาจต้องมีการตรวจเลือด การตรวจเต้านมด้วยแมมโมแกรม และการตรวจอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
ผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดเต้านมทั้งหมด อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเต้านม (reconstructive breast surgery) สามารถทำได้ตั้งแต่ขณะการผ่าตัดเต้านมทั้งหมดหรือทำหลังจากนั้น
การเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการเยียวยาตนเอง ที่อาจช่วยรับมือโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง มีดังนี้
โภชนาการ
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นมีความสำคัญตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังจากการรักษาโรคมะเร็ง คุณควรได้รับปริมาณของแคลอรี่ที่ถูกต้อง เพื่อรักษาน้ำหนักตัวที่ดี และควรรับประทานโปรตีนเพื่อให้มีแรง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้น อาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและมีพลังมากขึ้น
ในบางครั้ง โดยเฉพาะขณะการรักษาหรือไม่นานหลังการรักษา คุณอาจรู้สึกไม่อยากอาหาร รู้สึกไม่สบายหรือเหนื่อยล้า หรือรู้สึกว่ารสชาติของอาหารนั้นไม่อร่อยเหมือนเคย นอกจากนี้ อาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน แผลพุพองในปาก และผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการรักษาอาจยิ่งทำให้การกินเป็นเรื่องที่ยาก แต่ในทางกลับกัน ผู้หญิงบางคนที่รักษาโรคมะเร็งเต้านมอาจมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
การดูแลติดตามผล
คุณจำเป็นต้องตรวจร่างกายเป็นประจำ (เช่น ทุก ๆ 3 ถึง 6 เดือน) หลังจากการรักษาโรคมะเร็งเต้านม การตรวจร่างกายจะช่วยให้คุณแน่ใจว่า ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพทุกอย่าง และรับการรักษาหากจำเป็น หากคุณมีปัญหาสุขภาพระหว่างรอบการตรวจร่างกายควรติดต่อหาแพทย์ในทันที การตรวจร่างกายนั้นจะช่วยบ่งชี้ดังต่อไปนี้
ควรตรวจร่างกายเป็นประจำ รวมทั้งตรวจคอ ใต้แขน หน้าอก และบริเวณเต้านม
เนื่องจากอาจเกิดมะเร็งเต้านมครั้งใหม่ขึ้นได้ และควรเข้ารับการตรวจด้วยแมมโมแกรมเป็นประจำด้วยคุณอาจไม่จำเป็นต้องตรวจด้วยแมมโมแกรม หากคุณทำการผ่าตัดแก้ไขเต้านม หรือหากคุณผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมดโดยไม่ได้ผ่าตัดแก้ไข แพทย์อาจสั่งให้คุณทำการตรวจด้วยภาพแบบอื่น หรือทำการตรวจในห้องแล็บ
เรียนรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม และแหล่งสนับสนุน
เรียนรู้ว่าโรคมะเร็งเต้านมนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณและคนรอบตัวคุณได้ และการเปลี่ยนแปลงนั้นอาจรับมือได้ยาก
ความกังวลเกี่ยวกับการรักษาและการจัดการผลข้างเคียง การอยู่ในโรงพยาบาล และค่ารักษาพยาบาลนั้นเป็นเรื่องปกติ คุณอาจจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการดูแลครอบครัว รักษาตำแหน่งงาน หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องปกติที่คุณ ครอบครัวของคุณ และเพื่อนของคุณจะช่วยกันจัดการกับปัญหาเหล่านี้
มีหลายองค์กรที่มีข้อเสนอพิเศษให้แก่ผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม ผู้ที่เคยผ่านการเป็นโรคมะเร็งนั้นจะทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว พวกเขาอาจจะมาคุยหรือมาเยี่ยมผู้ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม ให้ข้อมูล และให้การสนับสนุนทางอารมณ์ พวกเขามักจะแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งเต้านม การผ่าตัดแก้ไขเต้านม และการฟื้นฟู
สิ่งที่จะสนับสนุนมีดังนี้
ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมมักจะรวมกันเป็นกลุ่มในกลุ่มสนับสนุน แต่ควรจำไว้ว่าแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน วิธีการที่คน ๆ หนึ่งใช้ในการจัดการกับโรคมะเร็งอาจไม่เหมาะสมกับอีกคน คุณควรสอบถามผู้ดูแลสุขภาพเกี่ยวกับคำแนะนำที่คุณได้รับมา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย