backup og meta

CGM (เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง) คืออะไร ใช้งานอย่างไร

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์ · โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 25/01/2023

    CGM (เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง) คืออะไร ใช้งานอย่างไร

    CGM ย่อมาจาก Continuous Glucose Monitoring เป็นเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ที่ต้องการควบคุมเบาหวานให้ได้ดี สามารถใช้ติดตามค่าน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาวิธีการใช้งานรายละเอียดข้อมูล ทั้งข้อดี และข้อเสียของเครื่อง CGM ก่อนใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดระหว่างใช้งาน

    CGM คืออะไร

    CGM คือ เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง โดยจะวัดระดับน้ำตาลที่อยู่เนื้อเยื่อซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับระดับน้ำตาลในกระเเสเลือดทุก ๆ 5-10 นาที ตลอด 24 ชั่วโมงแล้วส่งข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นไปแสดงผลที่ตัวรับสัญญาน หรือ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผุ้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงค่าน้ำตาลในเลือด ณ ขณะนั้น ๆ ได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ เมื่อเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องรบอายุการใช้งานควรเปลี่ยนเครื่องใหม่ตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ ซึ่งอาจเเตกต่างกันในเเต่ละยี่ห้อ

    เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้

  • เซนเซอร์ (Sensor) เป็นวัสดุที่ทำจากโลหะ มีขนาดเล็ก ซึ่งจะฝังอยุ่ใต้ผิวหนัง เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อเยื่อ ส่วนมากมักจะติดเซนเซอร์นี้ที่บริเวณหน้าท้อง และต้นแขนด้านหลัง
  • ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) เมื่อเซนเซอร์ตรวจจับระดับน้ำตาล ตัวส่งสัญญาณนี้จะส่งข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์ไปยังตัวรับข้อมูล
  • ตัวรับข้อมูล (Receiver) มีหน้าที่รับข้อมูลค่าน้ำตาลในเลือดที่ได้ผ่านบลูทูธเข้าแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งบนสมาร์ทโฟนของผู้ป่วย
  • การตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องแตกต่างจากการตรวจรูปแบบอื่นอย่างไร

    การตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องเเตกต่างกับการตรวจน้ำตาลในเลือดทั่วไปหรือการตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว ตรงที่การใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องผู้ใช้จะสามารถทราบค่าระดับน้ำตาลในเลือดได้ทุกช่วงเวลาตลอด 24ชั่วโมง โดยที่ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือด เนื่องจากมีเซนเซอร์คอยตรวจวัดน้ำตาลอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้ได้ข้อมูลค่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ละเอียดครบถ้วนกว่า โดยที่สะดวกเเละไม่ต้องเจ็บตัวหลาย ๆ ครั้ง อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็มหรือกลัวเลือดอีกด้วย

    การตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องเหมาะสำหรับใคร

    ผู้ที่เหมาะกับการตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง มีดังนี้

    ข้อดีและข้อเสียของการใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง

    ข้อดีและข้อเสียของการใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง มีดังนี้

    ข้อดีของเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง

    • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากสามารถตรวจระดับน้ำตาลได้เเบบแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังบอกเเนวโน้มค่าของระดับน้ำตาลและมีระบบการเตือน เช่น หากมีเเนวโน้มค่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ที่อาจนำไปสู่ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เครื่องจะส่งสัญญานเตือนผู้ใช้ ให้สามารถเเก้ไขก่อนที่จะเกิดภาวะดังกล่าวได้
    • ลดความเจ็บจากการเจาะเลือดปลายนิ้วเนื่องจากเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่องเป็นการติดอุปกรณ์เพียงครั้งเดียวและสามารถใช้งานจนกว่าจะครบอายุการใช้งานของเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง ซึ่งโดยทั่วไปประมาณอาจประมาณ 7-10 วัน
    • สะดวกต่อการใช้งาน
    • สามารถบันทึกข้อมูลระดับน้ำตาลรวม ถึงมีระบบการแจ้งให้ผู้ดูเเล/คนในครอบครัว หรือคุณหมอทราบได้ทันที หากค่าน้ำตาลในเลือดผิดปกติ

    ข้อเสียของเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง

    • อาจเพิ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่ฝังเซนเซอร์ หากไม่ดุเเลความสะอาดให้ดี
    • ค่าใช้จ่ายสูง
    • อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเมื่อเคลื่อนไหวได้บ้าง (เเต่ยังคงสามารถอาบน้ำ หรือ ทำกิจกรรมเช่น ออกกำลังกาย ได้ตามปกติ)

    วิธีตรวจน้ำตาลในเลือดแบบทั่วไป

    หากไม่สะดวกในการใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง โดยใช้เครื่องตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้ว  ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองตามวิธีการเบื้องต้นดังต่อไปนี้

    • ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท
    • ใส่เเถบกระดาษทดสอบเข้ากับเครื่องตรวจ
    • ทำความสะอาดบริเวณปลายนิ้วด้วยแอลกอฮอล์ จากนั้นใช้ชุดเข็มสำหรับเจาะเลือดปลายนิ้ว เจาะที่ปลายนิ้ว เเล้วบีบเบา ๆ ให้เลือดหยดลงบนกระดาษทดสอบ
    • รอเครื่องประมวลผลประมาณ 5 วินาที เครื่องจะเเสดงค่าระดับน้ำตาลที่หน้าจอ

    การอ่านค่าน้ำตาลในเลือด

    ระดับน้ำตาลอาจแปลผลเบื้องต้นได้ดังนี้

    • ค่าน้ำตาลในเลือดปกติ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 70 – 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หากเป็นการตรวจระดับนำ้ตาลก่อนมื้ออาหารจะมีเป้าหมายอยู่ที่ 80 – 130  มิลลิกรัม/เดซิลิตร
    • ค่าน้ำตาลในเลือดต่ำ คือ ระดับน้ำตาลน้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
    • ค่าน้ำตาลในเลือดสูง โดยทั่วไปคือ ระดับน้ำตาลมากกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

    โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 25/01/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา