ลดเลือนริ้วรอย โดยการใช้ ครีมและเซรั่ม อาจกลายเป็นเรื่องที่ชวนสับสนสำหรับผู้หญิงบางคน เนื่องจาก มีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยอยู่มากมาย แพทย์ผิวหนังหลายคนยอมรับว่า ครีมและเซรั่ม ลดเลือนริ้วรอยที่มีอยู่ทั่วไปนั้นใช้ได้ผลจริง แต่สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก็คือ ข้อเท็จจริงบางอย่างเพื่อที่จะได้แน่ใจไว่าเลือกใช้ ครีมหรือเซรั่ม ที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
การเลือกซื้อ ครีมและเซรั่ม เพื่อ ลดเลือนริ้วรอย
สำหรับวิธีพิจารณาว่าควรจะเลือกซื้อ ครีมและเซรั่ม เพื่อใช้ ลดเลือนริ้วรอย แบบไหนถึงจะดีต่อสุขภาพผิวและเหมาะสมกับราคา ลองดูคำแนะนำต่าง ๆ ดังนี้
ราคา ครีมและเซรั่ม ถูกหรือแพง ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ผู้หญิงหลายคนอาจจะคิดว่า ครีมหรือซรั่ม ราคาแพงเป็นอะไรที่คุ้มค่า แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างแรก ก็คือ ครีมและเซรั่ม มีผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรองหรือไม่ หาก ครีมและเซรั่ม มีส่วนผสมอย่างเรตินอลหรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ก็อาจจะมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าเหมาะสมที่จะเลือกใช้
เรตินอล ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
เรตินอล คือ ส่วนผสมที่ใช้ในลดเลือนริ้วรอยได้ผล ซึ่งเป็นที่ยอมรับของแพทย์ผิวหนังทั่วโลก เรตินอล เป็นสารในกลุ่มเบต้าแคโรทีนที่ได้จากวิตามินเอ โดยปกติแล้ว เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะสูญเสียวิตามินเอตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยและแลดูหม่นหมอง ซึ่ง เรตินอล สามารถฟื้นฟูปัญหาผิวเหล่านั้นให้กลับมาดูดีขึ้นได้ เรตินอล จะทำหน้าที่กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เสริมสร้างคอลลาเจน ลดเลือนจุดด่างดำ และจัดการกับปัญหาริ้วรอยโดยเสริมพลังวิตามินเอให้กับร่างกาย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระบุว่า เรตินอล จะกระตุ้นให้เซลล์ผิวที่อายุมากผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้น
สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันริ้วรอย
ส่วนผสมอีกที่สามารถช่วยป้องกันริ้วรอย ก็คือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว แต่ประโยชน์ที่แท้จริงของ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ คือ การป้องผิวจากอนุมูลอิสระ และปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดทางสภาพแวดล้อม อย่างเช่น แสงยูวีในแสงแดด และมลพิษต่าง ๆ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี วิตามินซี สารสกัดจากชาเขียว ไนอาซินาไมด์ เรสเวอราทรอล เป็นต้น ฉะนั้น ถ้ากำลังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาริ้วรอยในอนาคต และอยากจะป้องกันเอาไว้แต่เนิ่น ๆ ก็ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ
ส่วนผสมพวกนั้นควรมีความเข้มข้นสูง
นอกเหนือจากการอ่านฉลากเพื่อดูว่าส่วนผสมของ ครีมหรือซรั่ม มี เรตินอล หรือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือไม่ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะตรวจดู ก็คือ ความเข้มข้นของส่วนผสม เนื่องจาก ความเข้มข้นของ เรตินอล หรือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยให้สามารถมองเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ความเข้มข้นของสารเหล่านี้ก็มาพร้อมกับราคาที่สูง
ถ้ามีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นด้วยก็ยิ่งดี
เนื่องจากความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวดูอิ่มเอิบขึ้นได้ ทั้งยังส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย สิ่งที่ควรจะต้องมองหา ก็คือ ส่วนผสมที่ช่วยในการเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ยกตัวอย่างเช่น กรดไฮยาลูรอนิค ที่สามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ในผิวได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก กรดไฮยาลูรอนิคสามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวเองถึง 1,000 เท่า ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวที่เริ่มส่งสัญญาณแห่งวัย เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นไปมาก นอกจากนี้ ส่วนผสมอย่างเรตินอลยังทำให้ผิวแห้ง ฉะนั้นจึงควรมองหาสารเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเอาไว้ด้วย
คุณไม่สามารถมองเห็นผลในชั่วข้ามคืน
ครีมและเซรั่ม ไม่ใช่ของวิเศษ ที่สามารถเนรมิตผิวสวยได้ในชั่วข้ามคืน ฉะนั้น จึงต้องใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนเช้านอน เนื่องจาก ผิวจะมีการฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองทุกวัน และอาจต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้ย้ำเตือนว่า ให้ระวังผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่า ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้รวดเร็วเอาไว้ เพราะผลิตภัณฑ์แบบนั้นไม่มีจริง ครีมและเซรั่มที่มีประสิทธิภาพ อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ กว่าจะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจาก ต้องรอให้ผิวพัฒนาตัวเองให้ครบวงจรของผิวเสียก่อน เพื่อที่ผิวจะได้สร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา
[embed-health-tool-heart-rate]