ให้ความสนใจและเอาใจใส่ลูกอยู่เสมอ
หลายคนอาจต้องทำหน้าที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและทำงานไปด้วยในเวลาเดียวกัน จนอาจทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเท่าไหร่นัก คุณแม่อาจพูดคุยและสอบถามถึงชีวิตประจำวัน เรื่องเพื่อน เรื่องการเรียน และให้ความสนใจในเรื่องที่ลูกพูดโดยไม่ตัดสินหรือตำหนิ และเมื่อลูกรู้สึกว่าคุณแม่ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นและไม่มีท่าทีตัดสิน อาจทำให้ลูกรู้สึกสนิทใจกับคุณแม่มากขึ้น และเล่าเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตให้คุณแม่รับรู้อย่างเต็มใจ ทำให้คุณแม่ได้มีส่วนร่วมในชีวิตของลูกโดยไม่ต้องบังคับ และหากลูกมีปัญหาหรือเรื่องที่ไม่สบายใจในอนาคต ก็อาจรู้สึกไว้วางใจและกล้าขอคำปรึกษาจากคุณแม่ได้ตรง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของแม่ลูกดำเนินไปได้ด้วยดี
ชื่นชมเมื่อลูกทำได้ดี
คำชมและการสนับสนุนจากคุณแม่อาจเป็นแรงผลักดันที่ดีให้กับลูก ช่วยให้ลูกมีความมั่นใจ กล้าคิดกล้าแสดงออก และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ จึงควรชื่นชมทุกครั้งเมื่อลูกประสบความสำเร็จในการทำเรื่องที่ตั้งใจมานาน และควรชมเชยเมื่อลูกทำสิ่งที่ดีให้กับผู้อื่น เช่น ให้ยืมของใช้ ให้อภัยคนอื่น ช่วยเหลือคนรอบข้าง ซึ่งจะช่วยปลูกฝังให้ลูกสามารถตัดสินใจได้ว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดีและควรทำ
ร่วมมือกับลูกในการดูแลเรื่องภายในบ้าน
เมื่อลูกโตมากพอและอยู่ในวัยที่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้มากขึ้น คุณแม่สามารถขอให้ลูกช่วยดูแลเรื่องงานบ้านได้ ซึ่งอาจช่วยให้ลูกมีความรับผิดชอบและเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการงานบ้านต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น เช่น ซื้อของที่จำเป็นเข้าบ้าน แบ่งเวรทำความสะอาด หรือหากลูกกลับถึงบ้านก่อนคุณแม่ ก็อาจให้ลูกช่วยเตรียมวัตถุดิบในการประกอบอาหารเย็นไว้ล่วงหน้า เมื่อคุณแม่กลับถึงบ้านจะได้สามารถทำอาหารได้ทันที ทั้งนี้ ไม่ควรให้ลูกทำกิจกรรมที่เกินความสามารถหรืออาจเป็นอันตรายได้
ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง แต่หลายคนก็ยังมีคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงที่พร้อมจะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเมื่อร้องขอ จึงไม่ควรลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างในยามจำเป็น และอาจตอบแทนพวกเขาด้วยการให้ความช่วยเหลือในเรื่องอื่น ๆ หรือซื้อของฝากให้บ้างเพื่อตอบแทนน้ำใจ
หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง
การเลี้ยงลูกต้องอุทิศเวลาและทุ่มเทแรงกายและแรงใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเลี้ยงลูกลำพัง ไม่มีผู้ปกครองอีกคนหรือสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวมาช่วยแบ่งเบาภาระ คุณแม่ควรดูแลใส่ใจสุขภาพกายและสุขภาพใจของตัวเองอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับที่คอยดูแลลูกในทุกวัน ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ และหาเวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจบ้าง เช่น อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เดินเล่น ไปดูหนัง โดยอาจให้คนรอบข้างอย่างพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง พี่เลี้ยงเด็ก มาช่วยดูแลลูกในช่วงนั้น และควรหมั่นให้กำลังใจตัวเองว่าตัวเองสามารถทำหน้าที่ในการเป็นพ่อและแม่ให้กับลูกได้อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว
วางแผนสำรองเผื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน
คุณแม่ควรมีแผนสำรองในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ทั้งเรื่องเงิน อุบัติเหตุ สุขภาพ โดยเริ่มจากวางแผนทางการเงินที่ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีเงินสำรองเพียงพอนำมาใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย หรือการเงินของครอบครัวในอนาคต และควรสอนวิธีรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันให้ลูกด้วย เพื่อให้สามารถลูกแก้ปัญหาเองได้ในเบื้องต้น เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ วิธีปิดวาล์วน้ำหากท่อแตก การขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย