ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยาอะเซตาโซลาไมด์ (Acetazolamide) ใช้เพื่อป้องกันและลดอาการแพ้ที่สูง (altitude sickness) ยานี้สามารถลดอาการปวดหัว เหนื่อยล้า คลื่นไส้ วิงเวียน และหายใจไม่ทั่วท้อง ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณปีนขึ้นที่สูงอย่างรวดเร็ว (โดยทั่วไปแล้วประมาณ 10,000 ฟุต/3,048 เมตร) ยานี้จะใช้ในสถานการณ์ที่คุณ ไม่สามารถขึ้นที่สูงอย่างช้าๆ ได้
ยานี้ยังสามารถร่วมกับยาอื่นเพื่อรักษาโรคตาบางชนิด เช่น ต้อหินมุมเปิด ยาอะเซตาโซลาไมด์ คือ ยาขับปัสสาวะ (diuretic) ช่วยลดปริมาณของน้ำที่สะสมที่ดวงตา และยังช่วยลดการสะสมของน้ำในร่างกายที่มีสาเหตุมาจากโรคหัวใจล้มเหลว หรือยาบางชนิด ยาอะเซตาโซลาไมด์อาจจะมีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น จึงมักจะใช้แค่ในช่วงเวลาสั้นๆ
นอกจากนี้ยังมีการใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อรักษาอาการชักบางชนิด เช่น ลมชัก petit mal และอาการชัก unlocalized seizures
ยาอะเซตาโซลาไมด์อาจสามารถใช้เพื่อรักษา อาการอัมพฤกษ์
หากคุณใช้ยาเม็ด ตามปกติแล้วคือรับประทานยานี้ 1 ถึง 4 ครั้ง ต่อวันหรือตามที่แพทย์กำหนด หากคุณใช้ยาแคปซูลแบบออกฤทธิ์นาน ให้รับประทาน 1 หรือ 2 ครั้งต่อวัน หรือตามที่แพทย์กำหนด กลืนยาแคปซูลแบบออกฤทธิ์นานไปทั้งเม็ด ห้ามเปิด หัก หรือเคี้ยวยาแคปซูล การทำแบบนั้นจะทำลายการออกฤทธิ์นานของยา และอาจเพิ่มผลข้างเคียงได้
ยาอะเซตาโซลาไมด์สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงอาหาร ดื่มน้ำให้มาก หรือทำตามที่แพทย์กำหนด ขนาดยาขึ้นอยู่กับอาการ และการตอบสนองต่อการรักษา
เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่สูง เริ่มใช้ยาอะเซตาโซลาไมด์ 1 ถึง 2 วันล่วงหน้าก่อนที่ขึ้นที่สูง ใช้ยาอย่างต่อเนื่องขณะปีน จนถึงอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังจากที่ปีนถึงที่หมายแล้ว อาจจะต้องใช้ยานี้ต่อไปขณะที่ยังอยู่บนพื้นที่สูงเพื่อควบคุมอาการ
หากคุณมีอาการแพ้ที่สูงรุนแรง ควรจะลงจากที่สูงให้เร็วที่สุด ยาอะเซตาโซลาไมด์ไม่สามารถป้องกันคุณ จากผลข้างเคียงที่รุนแรงของอาการแพ้ที่สูงได้ (ดูเพิ่มเติมส่วนข้อควรระวัง)
หากคุณใช้ยานี้สำหรับโรคอื่นๆ เช่น ต้อหิน อาการชัก ใช้ยานี้เป็นประจำตามที่กำหนด เพื่อรับประโยชน์สูงสุดจากยา เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุกวัน การรับประทานยาครั้งสุดท้ายของวันในช่วงเย็น จะป้องกันไม่ให้คุณต้องลุกขึ้นมากลางดึกเพื่อปัสสาวะ ปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตารางการรับประทานยา
อย่าเพิ่มหรือลดขนาดยา หรือหยุดใช้ยาโดยไม่ได้ปรึกษากับแพทย์ อาการบางอย่างอาจจะแย่ลงหากหยุดยานี้โดยกะทันหัน ขนาดยาของคุณอาจจำเป็นต้องค่อยๆ ลดลง
หากใช้ในระยะยาว ยานี้อาจจะมีประสิทธิภาพลดลง และจำเป็นต้องใช้ยาขนาดอื่น แพทย์จะคอยเฝ้าสังเกตอาการของคุณ แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง (เช่น มีอาการชักบ่อยขึ้น)
ยานี้อาจจะลดระดับของโพแทสเซียมในเลือด แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง (เช่น กล้วย หรือน้ำส้ม) ขณะที่คุณกำลังใช้ยานี้ แพทย์ยังอาจจะสั่งให้คุณรับประทานอาหารเสริมโพแทสเซียมขณะใช้ยานี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดปรึกษาแพทย์
ยาอะเซตาโซลาไมด์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะเซตาโซลาไมด์บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาอะเซตาโซลาไมด์ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
สภาวะบางอย่างอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอะเซตาโซลาไมด์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณมีสภาวะใดๆ โดยเฉพาะสภาวะต่อไปนี้
ยาบางชนิดอาจจะมีปฏิกิริยากับยาอะเซตาโซลาไมด์ แจ้งผู้ดูแลสุขภาพหากคุณกำลังใช้ยาดังต่อไปนี้
อาจมีปฏิกิริยาอื่นนอกเหนือจากนี้ สอบถามแพทย์เกี่ยวกับยาที่คุณใช้อยู่ว่า อาจจะมีปฏิกิริยากับยาอะเซตาโซลาไมด์หรือไม่ ตรวจสอบข้อมูลกับแพทย์ก่อนเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ ยาอะเซตาโซลาไมด์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ยาทุกชนิดอาจมีผลข้างเคียง แต่คนจำนวนมากนั้นอาจจะไม่มีผลข้างเคียง หรือเป็นเล็กน้อย ไปหาแพทย์หากผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปเหล่านี้ ไม่ยอมหายไป หรือรบกวนคุณ
รับการรักษาในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงได้แก่
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ
ยาอะเซตาโซลาไมด์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
แม้ว่ายาบางชนิดจะไม่ควรใช้ร่วมกันเลยก็ตาม แต่อาจมีกรณีบางอย่างที่ต้องใช้ยาสองชนิดที่แตกต่างกัน แม้ว่ายานั้นอาจจะมีปฏิกิริยาต่อกัน ในกรณีนี้ แพทย์อาจจะต้องเปลี่ยนขนาดยา หรือมีข้อระมัดระวังอื่นๆ ที่จำเป็น แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยาใดๆ ทั้งยาตามใบสั่งยาแและยาที่ซื้อเองได้
ไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้กับยาดังต่อไปนี้ แพทย์อาจจะตัดสินใจไม่ใช้ยาในกลุ่มนี้เพื่อรักษาคุณ หรือเปลี่ยนยาบางตัวที่คุณกำลังใช้อยู่
โดยปกติแล้วไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้กับยาดังต่อไปนี้ แต่อาจจำเป็นในบางกรณี หากคุณได้รับใบสั่งยาทั้งคู่ร่วมกัน แแพทย์อาจจะต้องเปลี่ยนขนาดยาหรือความถี่ในการใช้ยาตัวหนึ่งหรือทั้งคู่
ยาอะเซตาโซลาไมด์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาอะเซตาโซลาไมด์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะบวมน้ำ (Edema)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการแพ้ความสูงฉับพลัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาต้อหิน
ต้อหินมุมเปิด
ต้อหินมุมปิด
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันอาการชัก
ยาอะเซตาโซลาไมด์นั้นส่วนมากจะใช้เพื่อรักษาโรคลมชักที่ดื้อยา (refractory epilepsy) โดยใช้ร่วมกับยาอื่น แม้อาจจะเป็นประโยชน์ต่ออาการชักเป็นบางส่วน (partial) ชักสะดุ้ง (Myoclonic) ชักแบบเหม่อลอย (absence) และชักกระตุกและเกร็งแบบทั่วไปเบื้องต้น (primary generalized tonic-clonic seizures) ที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยายี่ห้ออื่น แต่งานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมาตฐานของอาการเหล่านี้นั้นยังไม่เพียงพอ
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาต้อหิน อายุมากกว่า 1 ปี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษา ภาวะบวมน้ำ อายุมากกว่า 1 ปี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคลมชัก อายุมากกว่า 1 ปี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ (Hydrocephalus) อายุต่ำกว่า 1 ปี
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
อาการของการใช้ยาเกินขนาดมีดังนี้
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย