การบำบัดด้วยการลอยตัวในน้ำเกลือ ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ชอบการนวด

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก ก่อให้เกิดนวัตกรรมด้านต่าง ๆ มากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อการเอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่เรา แม้กระทั่งการทำสปาก็เช่นเดียวกัน ที่แต่เดิมเราจะคุ้นเคยเพียงแค่การนวดน้ำมัน ขัดตัว เท่านั้น แต่เมื่อลองศึกษาให้มากขึ้นจะพบว่ามีการทำสปา หรือการบำบัดร่างกาย ในรูปแบบใหม่ ๆ ให้เราได้ลองอยู่เสมอ บทความนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมารู้จักกับ การบำบัดด้วยการลอยตัวในน้ำเกลือ หรือ การทำสปาลอยตัวในน้ำเกลือ ที่คุณจะรู้สึกถึงความสบาย และสดชื่นตลอดเวลา จนคุณไม่อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมาเลยทีเดียว

ทำความรู้จักกับ การบำบัดด้วยการลอยตัวในน้ำเกลือ

การทำสปาลอยตัวในน้ำเกลือ หรือ การบำบัดด้วยการลอยตัวในน้ำเกลือ เรียกอีกอย่างได้ว่า โฟลเทชัน เทอราพี (Floatation Therapy) เป็นการลอยตัวในเครื่องลอยตัว (Float Tank) ที่ดูเหมือนแคปซูลเต็มไปด้วยน้ำที่ประกอบด้วยดีเกลือฝรั่ง อยู่ภายในประมาณครึ่งฟุต ซึ่งเป็นเครื่องที่ถูกผลิตขึ้นมาสำรับการทำสปานี้โดยเฉพาะ โดยทั่วไปแล้วการแช่ร่างกายในน้ำอาจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอกแม้กระทั่งเสียงผู้คน ถือได้ว่าเป็นอ่างแช่ส่วนตัวที่ทำให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เลยทีเดียว

ประโยชน์ของการใช้บริการ การบำบัดด้วยการลอยตัวในน้ำเกลือ

ถึงแม้จะเป็นการทำบำบัดที่ค่อนข้างแปลกใหม่ และเชื่อว่าหลายคนคงจะสงสัยกันอยู่เป็นแน่ว่า แค่ลอยตัวในน้ำจะสามารถช่วยบำบัดร่างกายของเราได้อย่างไร หากเมื่ออ่านคุณประโยชน์ด้านล่างนี้ที่กำลังจะกล่าวถึงแล้วละก็ อาจทำให้คุณอยากลองเข้ารับการบำบัดด้วยวิธีนี้ก็เป็นได้

บางครั้งที่เราเหน็ดเหนื่อยจากการนั่งทำงานทั้งวัน ทำให้เกิดมีอาการปวดเมื่อยตัว จนนำไปสู่การนอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับไม่สนิท บางรายอาจมีตะคริวร่วมจนไปรบกวนเวลาการพักผ่อน ซึ่งการทำบำบัดแบบลอยตัวในน้ำนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกถึงความสบาย เพราะเป็นการทิ้งตัวลงในน้ำ พร้อมกับคลื่นเล็กน้อยที่เปรียบเสมือนทะเลจะช่วยพยุงร่างกายคุณ ให้คุณรู้สึกเหมือนร่างกายเบาขึ้น เมื่อหลังทำเสร็จคุณจะสังเกตได้ว่าอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อทุเลาลง จนทำให้คุณนอนหลับช่วงเวลากลางคืนได้อย่างง่ายดาย

• ปรับปรุงสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด

เพราะเป็นการทำบำบัดที่ใช้เวลาอยู่กับตนเอง ไร้สิ่งรบกวนจึงทำให้คุณมีความผ่อนคลาย ละทิ้งความเครียดที่เป็นสาเหตุเชื่อมโยงไปกระตุ้นให้อาการบางอย่างของผู้ป่วยโรคหัวใจ รวมทั้งอาจเพิ่มระดับความดันโลหิตของคุณสูงขึ้นได้ ดังนั้นการทำสปาลอยตัวในน้ำอาจเป็นทางออกอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากปรับปรุงด้านสุขภาพหัวใจ แต่มิได้หมายความว่าเป็นการรักษาแบบหายขาดเพียงจะทำให้อาการแทรกซ้อนของคุณบรรเทาลงเพียงเท่านั้น

• ลดความวิตกกังวล

จากการศึกษาในปี 2018 ทีมวิจัยได้ได้คัดเลือกอาสาสมัครทั้ง 50 คน ที่มีความเครียด และความวิตกกังวล เข้าร่วมการทดสอบให้พวกเขาได้ลอยตัวอยู่ในน้ำเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อครบตามเวลาที่กำหนดจึงได้ผลสรุปว่าการปล่อยให้ร่างกายคุณลอยอยู่บนน้ำในแคปซูลนั้น สามารถลดอาการวิตกกังวลลง พร้อมทั้งปรับปรุงด้านอารมณ์ และจิตใจให้นิ่งสงบลงอย่างเห็นได้ชัด

กระบวนการทำงานภายในเครื่องลอยตัวมีลักษณะอย่างไร

ภายในเครื่องลอยที่บรรจุเต็มไปด้วยน้ำเกลือนี้ จะเริ่มทำงานเมื่อนักบำบัดเริ่มตั้งโปรแกรม หรือเวลาที่เหมาะสมให้แต่ละอาการของผู้บริการ โดยขั้นแรกคุณควรทำคือ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนก้าวเท้าเข้าไปในเครื่อง

• เมื่อเข้าไปแล้วแคปซูลจะทำการปิดตัวลง ซึ่งการใช้บริการช่วงแรกอาจทำให้คุณรู้สึกกลัวเล็กน้อย
• ทิ้งตัวให้ลอยบนพื้นผิวน้ำ และนำศีรษะนอนลงบนหมอนลอยน้ำที่ทางนักบำบัดได้จัดไว้ให้
• ภายในจะมีเพลงที่เปิดเพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งคุณสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
• จากนั้นเมื่อครบเวลาที่กำหนด ให้คุณลุกขึ้นออกได้ทันที และทำความสะอาดร่างกายอีกครั้ง

หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดแล้ว คุณควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีนเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง อย่างต่ำด้วย

ใครที่ไม่เหมาะสมกับการบำบัดในรูปแบบนี้บ้าง

ผู้ที่สามารถใช้บริการการทำสปาลอยตัวนี้ได้ ต้องไม่มีโรคประจำตัว หรือลักษณะอาการเหล่านี้ ที่สำคัญต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป

• โรคลมบ้าหมู
• โรคไต
• ความดันโลหิตต่ำ
• โรคสะเก็ดเงิน
• โรคกระเพาะ
• โรคติดต่ออื่น ๆ เช่น โรคท้องร่วง ไข้หวัด เป็นต้น

ข้อแนะนำในการทำสปาลอยตัวในน้ำเกลือหรือบำบัดด้วยการลอยตัวในน้ำเกลือ

• ก่อนการทำสปาหรือการเข้ารับการบำบัด คุณควรตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียด ระวังอย่าให้ร่างกายมีร่องรอยของบาดแผลใด ๆ บนผิวหนัง เพราะอาจทำให้คุณรู้สึกแสบจากส่วนประกอบของเกลือที่อยู่ในน้ำได้
• หลังการทำสปาหรือการเข้ารับการบำบัด หากสังเกตตนเองได้ว่ามีอาการแสบผิว ผื่นแพ้ หรือ มีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น กรุณาปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาอย่างเหมาะสม

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด