อาหารแอตกินส์ หรือ การรับประทานอาหารแบบแอตกินส์ (Atkins diet) เป็นรูปแบบหนึ่งของการรับประทานอาหารที่จำกัดแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แต่เน้นโปรตีนและไขมันให้มากขึ้นแทน ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน และต้องการลดน้ำหนัก
อาหารแอตกินส์ หรือ การรับประทานอาหารแบบแอตกินส์ (Atkins diet) เป็นรูปแบบหนึ่งของการรับประทานอาหารที่จำกัดแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แต่เน้นโปรตีนและไขมันให้มากขึ้นแทน ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน และต้องการลดน้ำหนัก
อาหารแอตกินส์ เป็นวิธีการรับประทานอาหารแบบหนึ่งที่ดร.โรเบิร์ต ซี แอตกินส์ (Robert C. Atkins) เป็นผู้คิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2515 โดยจะมุ่งเน้นไปที่การรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง แต่จะไปเพิ่มโปรตีนและไขมันให้มากขึ้นแทน โดยเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมเพื่อประโยชน์ในการลดน้ำหนัก เนื่องจากโดยปกติแล้วพลังงานจากโปรตีนและไขมันมักทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น จึงทำให้ลดความอยากอาหารในมื้อต่อ ๆ ไป รวมถึงลดปริมาณแคลอรีในมื้ออาหารต่อไป การรับประทานอาหารแบแอตกินส์จึงอาจมีผลดีต่อการลดน้ำหนักมากกว่าการเน้นแป้งและคาร์โบไฮเดรต
อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวมีการถกเถียงกันอยู่เสมอว่า วิถีการบริโภคอาหารเช่นนี้ดีต่อสุขภาพจริง ๆ หรือไม่ เพราะการเน้นไขมันอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันชนิดที่ไม่ดีในร่างกาย และอาจมีผลทำให้น้ำหนักขึ้นมากกว่าที่จะช่วยลดน้ำหนัก
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับข้อโต้แย้งต่อการบริโภคอาหารแบบแอตกินส์ เผยแพร่ในวารสาร Annals of Saudi Medicine พ.ศ.2549 ระบุว่า การบริโภคอาหารที่ได้ประโยชน์สูงสุดควรเป็นการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำและอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนสูง และกากใยอาหารเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
อาหารแบบแอตกินส์ มีรูปแบบการบริโภคอาหารแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
เริ่มต้นด้วยการตัดคาร์โบไฮเดรตออกจากมื้ออาหารทั้งหมด เหลือไว้เพียง 20 กรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันสูง ส่วนคาร์โบไฮเดรตควรเลือกรับประทานจากอาหารจำพวกผักใบเขียว
ระยะนี้น้ำหนักจะเริ่มลดลง แต่ยังคงต้องจำกัดการรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ เน้นโปรตีนและไขมันอยู่เช่นเดิม แต่สามารถเพิ่มอาหารจำพวกถั่ว ธัญพืช และผลไม้ได้
ในระยะนี้น้ำหนักจะลดลงมาอีก อาจเพิ่มปริมาณอาหารที่รับประทานอยู่ให้มากขึ้นได้ และอาจเพิ่มคาร์โบไฮเดรตได้อีก 10 กรัม
เมื่อถึงระยะนี้น้ำหนักมักลดลงได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ อาจกลับมารับประทานคาร์โบไฮเดรตได้ตามปกติ หรืออาจเลือกรับประทานอาหารแอตกินส์ไปได้ตลอดตามที่ต้องการ
การรับประทานอาหารแบบแอตกินส์ จะมุ่งเน้นการรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนและไขมัน โดยจะจำกัดคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งให้น้อยที่สุด ตัวอย่างอาหารแอตกินส์ มีดังนี้
รูปแบบ การรับประทานอาหารแบบแอตกินส์ ควรงดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่สูง ซึ่งขัดต่อวิถีการกินแบบแอตกินส์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
การรับประทานอาหารแบบแอตกินส์ มีจุดประสงค์หลักเพื่อการลดน้ำหนัก ซึ่งแน่นอนว่าหากปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด มักเห็นผลได้จริง อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังเกี่ยวกับการกินอาหารแบบแอตกินส์ นั่นคือ ร่างกายอาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะสารอาหารจำพวกไฟเบอร์ เนื่องจากไฟเบอร์มักพบได้ในอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรต เมื่อจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรต อาจทำให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์น้อยลงหรือไม่เพียงพอ จนนำไปสู่อาการท้องผูก หรืออาหารไม่ย่อย ทั้งยังอาจก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หรือคลื่นไส้ได้อีกด้วย
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
เนตรนภา ปะวะคัง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย