backup og meta

การมองเห็นของทารก และการดูแลสุขภาพดวงตา

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์ · พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 18/02/2023

    การมองเห็นของทารก และการดูแลสุขภาพดวงตา

    การมองเห็นของทารก จะเริ่มพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเกิด โดยจอตา (Retina) และรูม่านตาจะค่อย ๆ พัฒนาและกว้างขึ้น ส่งผลให้ทารกมองเห็นภาพได้ชัดเจน มองเห็นในระยะไกล และสามารถควบคุมกล้ามเนื้อตาในการมองตามวัตถุได้เป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายที่ทำให้ทารกสามารถหยิบจับสิ่งของได้แม่นยำมากขึ้น

    การมองเห็นของทารก พัฒนาอย่างไร

    การมองเห็นของทารกอาจมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามช่วงอายุ ดังนี้

    ทารกแรกเกิด

    ดวงตาของทารกแรกเกิดอาจไวต่อแสงจ้ามาก เนื่องจากรูม่านตาของทารกยังมีขนาดที่เล็กมาก ทารกจึงอาจมองเห็นได้เพียงในวงแคบ และเมื่อผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ จอตาซึ่งเป็นเซลล์ประสาทที่ไวต่อแสงอยู่บริเวณด้านหลังภายในลูกตา จะค่อย ๆ พัฒนาทำให้รูม่านตาของทารกกว้างขึ้น ส่งผลให้ทารกสามารถมองเห็นรูปร่าง สีสัน มองเห็นในมุมกว้างมากขึ้น และเริ่มเรียนรู้ในการจดจ่อกับสิ่งตรงหน้า

    เมื่อทารกอายุครบ 1 เดือน ดวงตาจะสามารถมองเห็นสิ่งตรงหน้าได้ชัดเจนไม่เกิน 100 เซนติเมตร และจดจ่อกับสิ่งนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่จะให้ความสนใจกับสิ่งของที่มีสีสันสดใส

    ทารกอายุ 2-4 เดือน

    ดวงตาของทารกในช่วง 2 เดือนแรก อาจยังทำงานไม่ประสานกันมากนัก เนื่องจากกล้ามเนื้อดวงตายังอยู่ในช่วงพัฒนา ในช่วงนี้ทารกสามารถมองตามการเคลื่อนที่ของวัตถุได้ ซึ่งดวงตาจะค่อย ๆ ทำงานประสานกันได้ดียิ่งขึ้น

    เมื่ออายุครบ 3 เดือน ดวงตาของทารกจะเริ่มจดจ่อกับการเคลื่อนที่ของวัตถุได้ดีมากขึ้น และอาจสามารถเริ่มใช้แขนตีวัตถุได้ตรงตามเป้าหมาย

    ทารกอายุ 5-8 เดือน

    เมื่อทารกอายุได้ 5 เดือน การมองเห็นของทารกจะดีมากขึ้นโดยสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ไกลขึ้นและอาจมองเห็นเป็นภาพ 3 มิติได้อย่างสมบูรณ์ สามารถหยิบจับสิ่งของได้แม่นยำและมองเห็นสีได้ชัดขึ้น

    นอกจากนี้ ทารกอาจมองเห็นวัตถุและจดจำสิ่งเหล่านั้นได้แม่นยำแม้ว่าจะเห็นเพียงบางส่วนเท่านั้น

    ทารกอายุ 9-12 เดือน

    เมื่ออายุ 9-12 เดือน ทารกอาจเริ่มคลานหรือเดินได้ซึ่งจะเริ่มมีการประสานงานระหว่างการมองเห็นและการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับสิ่งของได้แม่นยำ สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลมากขึ้นและอาจกะระยะห่างของวัตถุเพื่อให้สามารถใช้นิ้วมือในการจับวัตถุได้อย่างแมนยำ

    สัญญาณปัญหา การมองเห็นของทารก

    หากพบสัญญาณความผิดปกติในการมองเห็นของทารกต่อไปนี้เกิดขึ้น ควรเข้าพบคุณหมอ

    • ดวงตาของทารกทั้ง 2 ข้างเคลื่อนไหวไม่ประสานกัน หลับตาข้างใดข้างหนึ่งตลอดเวลา หรือดวงตาหมุนอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาการควบคุมกล้ามเนื้อตา หรือกล้ามเนื้อเปลือกตาอ่อนแรง
    • ดวงตามีบาดแผล หรือรอยฉีกขาด อาจเป็นสัญญาณของท่อน้ำตาอุดตัน
    • เปลือกตามีสีแดง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ตา
    • ดวงตาของทารกไวต่อแสงมากเกินไป อาจเป็นสัญญาณของความดันสูงในดวงตา
    • รูมานตามีสีขาว อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตา

    อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพดวงตาหรือปัญหาการมองเห็นของทารก ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำและทำการวินิจฉัยทันที

    การดูแลสุขภาพดวงตาของทารก

    การทำความสะอาดใบหน้าและดวงตาของทารกเป็นประจำทุกวันในขณะอาบน้ำ อาจเป็นวิธีที่จะช่วยดูแลสุขภาพดวงตาของทารกได้ ด้วยขั้นตอนดังนี้

    1. ใช้สำลีก้อนชุบน้ำอุ่นแล้วบีบพอหมาด
    2. เช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือบริเวณมุมตา โดยเช็ดจากมุมด้านในออกด้านนอก เพื่อขจัดสิ่งสกปรก คราบน้ำตาและขี้ตา
    3. ควรเปลี่ยนสำลีก้อนใหม่ทุกครั้งสำหรับการเช็ดในแต่ละครั้ง

    นอกจากการเช็ดทำความสะอาดดวงตาของทารก เมื่อทารกอายุประมาณ 6-12 เดือน โดยเฉพาะทารกคลอดก่อนกำหนด ที่มีอาการของโรคตาหรือประวัติครอบครัวที่เป็นโรคตา ควรพาทารกเข้ารับการตรวจสุขภาพดวงตาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจหาความผิดปกติของดวงตา เช่น สายตาเอียง สายตาสั้น ปัญหาการมองเห็น การเคลื่อนไหวของดวงตา ตำแหน่งดวงตา การสะท้อนแสงสีแดง การกะพริบตา การตอบสนองของดวงตา

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

    พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 18/02/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา