อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) ใช้เพื่อรักษาภาวะทางจิตใจ/อารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า (depression) ยานี้อาจช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น และรู้สึกสบายดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายความกังวลและความตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรพิมพ์จิต วัฒนชโนบล
อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) ใช้เพื่อรักษาภาวะทางจิตใจ/อารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า (depression) ยานี้อาจช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น และรู้สึกสบายดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายความกังวลและความตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย
ยา อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) ใช้เพื่อรักษาภาวะทางจิตใจ/อารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า (depression) ยานี้อาจช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น และรู้สึกสบายดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายความกังวลและความตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณ ยานี้เป็นหนึ่งในยาต้านซึมเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก (tricyclic antidepressants) ยานี้ออกฤทธิ์โดยส่งผลต่อสมดุลของสารเคมีในสมอง เช่น สารเซโรโทนิน
นอกจากนี้ ยานี้อาจใช้สำหรับรักษาอาการปวดเส้นประสาท เช่น อาการปลายประสาทอักเสบ (peripheral neuropathy) อาการปวดปลายประสาทหลังจากเป็นงูสวัด (postherpetic neuralgia) โรคบูลิเมีย (bulimia) ภาวะทางจิตใจ/อารมณ์อื่น ๆ (เช่น ความวิตกกังวล อาการแพนิค) หรือเพื่อป้องกันอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน
รับประทานยา วันละ 1 ถึง 4 ครั้ง หรือตามที่แพทย์สั่ง หากคุณรับประทานยาเพียงวันละครั้ง ให้รับประทานก่อนเข้านอน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการอาการง่วงนอนในเวลากลางวัน ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการตอบสนองต่อการรักษา
แพทย์อาจสั่งให้คุณเริ่มใช้ยานี้ในขนาดต่ำ แล้วจึงค่อยเพิ่มขนาดใช้ยาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดผลข้างเคียงของยา ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยา เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน ห้ามเพิ่มขนาดยา หรือใช้ยาบ่อยขึ้น หรือนานกว่าที่แพทย์สั่ง เนื่องจากอาการของคุณจะไม่ดีขึ้นเร็วกว่าเดิม และความเสี่ยงจากผลข้างเคียงจะเพิ่มขึ้น
ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้คุณจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว ห้ามหยุดใช้ยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาการบางอย่างอาจแย่ลงหากหยุดใช้ยานี้โดยทันที
นอกจากนี้ คุณอาจมีอาการ เช่น อารมณ์แปรปรวน ปวดศีรษะ รู้สึกเหนื่อย และนอนไม่หลับ เพื่อเป็นการป้องกันอาการเหล่านี้ในขณะที่คุณหยุดการรักษาโดยใช้ยานี้ แพทย์อาจค่อยๆ ลดขนาดยา ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้รายงานอาการที่เกิดขึ้นใหม่หรือที่แย่ลงโดยทันที
การเก็บรักษายาอะมิทริปไทลีนที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาอะมิทริปไทลีนไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง
ยาอะมิทริปไทลีนมีหลากหลายยี่ห้อซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
คุณไม่ควรทิ้งยาอะมิทริปไทลีนลงในโถส้วม หรือในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสมเมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย
ก่อนใช้ยาอะมิทริปไทลีน
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยาอะมิทริปไทลีนในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้รับกับความเสี่ยงจากการใช้ยานี้ ยาอะมิทริปไทลีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ประเภท C จัดลำดับโดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดย FDA มีดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปบางประการ ได้แก่
หากอาการใดๆ เหล่านี้เรื้อรังหรือแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
ให้แจ้งแพทย์ทันที หากผลข้างเคียงที่พบได้น้อยแต่มีความรุนแรงใดๆ เหล่านี้เกิดขึ้น
ยาอะมิทริปไทลีนอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาชนิดอื่นที่คุณใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้น
คุณควรทำรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของคุณ ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างยาอาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง เอกสารนี้ไม่ได้ระบุปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ให้ทำรายการผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาแก้หวัดหรือยาแก้แพ้ ยาระงับประสาท กลุ่มยาแก้ปวดชนิดเสพติด ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ และยารักษาอาการชักหรือความกังวล สามารถทำให้เกิดอาการง่วงนอนที่เกิดจากการใช้ยาอะมิทริปไทลีนเพิ่มมากขึ้น ให้แจ้งแพทย์ หากคุณใช้ยาใดๆ เหล่านี้หรือยาต้านภาวะซึมเศร้าประเภทอื่นๆ อยู่
ก่อนใช้ยาอะมิทริปไทลีน ให้แจ้งแพทย์ว่าคุณได้ใช้ยาต้านภาวะซึมเศร้า “SSRI” ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ให้แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาชนิดอื่นทั้งหมดที่คุณใช้ โดยเฉพาะ
ยา อะมิทริปไทลีน อาจทำปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
Amitriptyline อาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอ เกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดของคุณในปัจจุบัน
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เสมอ
ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่สำหรับรักษาภาวะซึมเศร้า
ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่สำหรับป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน
ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่สำหรับรักษาภาวะซึมเศร้าที่ไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง
ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่สำหรับรักษาอาการปวด
ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่สำหรับรักษาภาวะตึงเครียดหลังเกิดการบาดเจ็บ
ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่สำหรับรักษากลุ่มโรคทางจิตเวชที่แสดงอาการผิดปกติทางร่างกาย
ขนาดยาปกติสำหรับเด็กสำหรับรักษาภาวะซึมเศร้า
ขนาดยาเริ่มต้น: 1 มก./กก./วัน โดยการรับประทานในขนาดยาแบ่งใช้ 3 ครั้ง
อายุ 12 ถึง 18 ปี:
ขนาดยาปกติสำหรับเด็กสำหรับรักษาอาการปวด
อายุ 1 ถึง 12 ปี:
อายุ 12 ถึง 18 ปี:
ขนาดยาปกติสำหรับเด็กสำหรับป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน
อายุ 6 ถึง 12 ปี:
อายุ 12 ถึง 18 ปี:
ขนาดยาปกติสำหรับเด็กสำหรับรักษาภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้
รูปแบบยา
Amitriptyline มีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้
ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ
อาการจากการใช้ยาเกินขนาด ได้แก่
กรณีลืมใช้ยา
หากลืมใช้ยาอะมิทริปไทลีน ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็นสองเท่า
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย
เภสัชกรพิมพ์จิต วัฒนชโนบล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย