อย่างไรก็ตาม หากคุณเก็บยาไม่เหมาะสม หรือไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากยา ก็อาจทำให้ ยาเสื่อมสภาพ หรือมีคุณภาพลดลงได้เร็วกว่าวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลากยาได้ โดยเฉพาะยาที่ไวต่อสภาวะแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แสง
ยาหมดอายุ ใช้ไม่ได้ผลจริงไหม
เมื่อยาหมดอายุ อาจทำให้สารประกอบเคมี (chemical composition) เปลี่ยนแปลงไป จนกระทบกับประสิทธิภาพของยา คือทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง และอาจเพิ่มความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาได้ อีกทั้งยาหมดอายุบางชนิดอาจยังเสี่ยงเป็นแหล่งเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หรือหากเป็นยาปฏิชีวนะที่หมดอายุก็อาจช่วยรักษาการติดเชื้อไม่ได้ จนนำไปสู่อาการเจ็บป่วยที่ร้ายแรงขึ้น หรือทำให้แบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะได้ด้วย ฉะนั้น หากยาหมดอายุ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอย่านำมาใช้ เพราะนอกจากยาจะไม่ได้ประสิทธิภาพแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย
ยาหมดอายุ ยาเสื่อมสภาพ สังเกตได้ยังไงบ้าง
- ยาแคปซูล
- แคปซูลแข็ง หากหมดอายุจะบวมโป่ง อาจมีเชื้อราที่เปลือกแคปซูล ผงยาข้างในเปลี่ยนสี หรือเป็นก้อน
- แคปซูลนิ่ม เปลือกแคปซูลจะเยิ้มเหลว เหนียวกว่าปกติ หรือแคปซูลเปื่อยจนยาไหลออกมาด้านนอก
- ยาเม็ด เม็ดยาจะแตกร่วน สี่เปลี่ยนไป มีจุดเชื้อราขึ้น หากเป็นยาเม็ดเคลือบน้ำตาลอาจเหนียวเยิ้มหรือมีกลิ่นเปลี่ยนไป
- ยาผงแห้ง ผงยาจะจับตัวกันเป็นก้อนจนไม่สามารถละลายน้ำได้ และหากที่ผนังขวดบรรจุมีไอน้ำหรือหยดน้ำเกาะอยู่ ก็แสดงว่ายาไม่เหมาะจะนำไปใช้งานอีกต่อไป
- ยาน้ำเชื่อม เมื่อยาหมดอายุจะขุ่น มีตะกอน ผงตัวยาละลายไม่หมด สี่เปลี่ยนไป รสเปรี้ยวหรือมีกลิ่นบูดเปรี้ยว
- ยาน้ำแขวนตะกอน เช่น ยาคาลาไมน์ ยาลดกรด เมื่อเสื่อมสภาพตะกอนจะจับกันเป็นก้อน เขย่าแล้วไม่กระจายตัวดังเดิม กลิ่น สี หรือรสเปลี่ยนไป
- ยาหยอดตา จากน้ำใสๆ กลายเป็นน้ำขุ่นๆ หยอดตาแล้วแสบตามากกว่าปกติ
- ยาครีม เนื้อครีมแยกตัว หรือหดตัวเนื่องจากการระเหยของน้ำ หรือสี่เปลี่ยนไป
- ยาเจล เนื้อเจลจากใสเปลี่ยนเป็นขุ่น และไม่เป็นเนื้อเดียวกัน
- ยาขี้ผึ้ง ของเหลวจะแยกตัวออกมาเคลือบเยิ้มอยู่ที่ผิวหน้าของยา ความข้นหนืดเปลี่ยนไป และมีกลิ่นหืน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย