โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับผิว

การล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวมากที่สุด จะช่วยให้สามารถดูแลผิวได้อย่างตรงจุด และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิว ยิ่งหากมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือก โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย ที่มีส่วนประกอบ เช่น กลีเซอรีน กรดไฮยาลูรอนิค เซราไมด์ ไดเมธิโคน ที่อ่อนโยนต่อผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน อาการบวมแดง และไม่ทำให้ผิวแห้งมากเกินไปจนระคายเคืองต่อผิวที่บอบบาง ทั้งนี้ ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิว

โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย ควรมีส่วนประกอบอะไร

ส่วนประกอบของโฟมล้างหน้าที่เหมาะสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย อาจมีดังนี้

โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงส่วนประกอบอะไร

การเลือกซื้อ โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย อาจต้องหลีกเลี่ยงส่วนประกอบดังต่อไปนี้

• แอลกอฮอล์ การใช้โฟมล้างหน้าที่มีแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวแห้งมากกว่าปกติจนระคายเคืองได้ง่ายและเสี่ยงเกิดอาการแพ้ อีกทั้งเมื่อผิวแห้ง ต่อมไขมันจะผลิตไขมันมาเคลือบชั้นผิวเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้มีน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหารูขุมขนอุดตันจนเกิดสิวได้
• น้ำหอม คนผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่มีน้ำหอม เพราะอาจทำให้ผิวบวมแดง แสบ หรือมีอาการคันระคายเคืองได้
• ซัลเฟต (Sulfates) เช่น โซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium lauryl sulfate) โซเดียมลอเรทซัลเฟต (Sodium laureth sulfate) เป็นส่วนประกอบที่ช่วยในการกำจัดน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง หากใช้ในระดับที่เหมาะสมจะปลอดภัยต่อผิวหนัง แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซัลเฟตติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวเกิดรอยแดงและแห้งคันได้
• สารผลัดเซลล์ผิว (Exfoliants) เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (Alpha Hydroxy Acids หรือ AHAs) หรือกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดเบต้าไฮดรอกซีหรือบีเอชเอ (Beta Hydroxy Acid หรือ BHAs) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) มีคุณสมบัติช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่ก็เป็นกรดที่มีความเข้มข้นสูง อาจทำให้ผิวที่แพ้ง่ายระคายเคือง บวมแดง หรือเกิดอาการคันได้
• สารกันบูด เช่น เมทิลไอโซไทอะโซลิโนน (Methylisothiazolinone) อาจทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง แสบร้อน มีผื่นแดง จากการแพ้สัมผัสได้

วิธีดูแลผิวแพ้ง่าย

ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย  สามารถดูแลผิวได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

• ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในวันที่ออกแดด และควรทาก่อนออกแดด 15-20 นาที โดยเลือกครีมกันแดดสูตรบรอดสเปกตรัม (Broad Spectrum) ที่มีค่าเอสพีเอฟ (SPF) อย่างต่ำ 50 และมีค่า PA ด้วย จะได้สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ปริมาณครีมกันแดดที่แนะนำสำหรับทาผิวหน้าอยู่ที่ 1-2 กรัม/ครั้ง หรือประมาณ 2 ข้อนิ้ว
• เมื่อต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ควรสวมเสื้อผ้าแขนยาวและหมวกปีกกว้างเพื่อช่วยป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีในแสงแดด และการสวมเสื้อผ้าสีเข้มอย่างสีดำ สีกรมท่า สามารถกันแดดได้ดีกว่าสีอ่อน
• นอกจากการใช้โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่ายแล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่มีส่วนประกอบที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิวดังที่กล่าวมาข้างต้น และอาจมีสารสกัดจากธรรมชาติที่อาจช่วยบรรเทาผิวแห้งกร้าน และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแสบคัน ระคายเคืองได้
• หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น จนแห้งกร้าน แก่กว่าวัย ดูหมองคล้ำ และเกิดฝ้ากระได้ง่าย
• งดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารพิษอย่างทาร์ นิโคติน คาร์บอนมอนอกไซด์ และอนุมูลอิสระ ที่ไปทำลายชั้นผิว ลดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน และลดความชุ่มชื้นในผิว อาจทำให้ผิวระคายเคือง และแห้งคันได้ง่ายกว่าเดิม
• ดื่มน้ำและของเหลวให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ร่างกายและผิวหนังได้รับน้ำเพียงพอ และอาจช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวได้
• พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป