เวลาที่ไปตรวจร่างกาย หลายคนอาจเคยเห็นแพทย์นำอุปกรณ์หูฟังทางการแพทย์มาลองฟังเสียงการเต้นของหัวใจ ซึ่งหนึ่งในความผิดปกติที่แพทย์อาจพบคืออาการ เสียงฟู่ของหัวใจ สภาวะนี้เป็นอย่างไร หาคำตอบได้ในบทความนี้
เวลาที่ไปตรวจร่างกาย หลายคนอาจเคยเห็นแพทย์นำอุปกรณ์หูฟังทางการแพทย์มาลองฟังเสียงการเต้นของหัวใจ ซึ่งหนึ่งในความผิดปกติที่แพทย์อาจพบคืออาการ เสียงฟู่ของหัวใจ สภาวะนี้เป็นอย่างไร หาคำตอบได้ในบทความนี้
เสียงฟู่ของหัวใจ (Heart murmur) เป็นเสียงที่เกิดในระหว่างรอบการเต้นของหัวใจ คล้ายกับเสียงเป่าลม ซึ่งเกิดขึ้นจากความปั่นป่วนของการไหลของเลือดในหัวใจ หรือบริเวณใกล้เคียง เสียงชนิดนี้สามารถใช้หูฟังของแพทย์ โดยจังหวะการเต้นของหัวใจตามปกติจะมีสองเสียง เช่น ตุบๆ (lubb-dupp) (บางครั้งเรียกว่า “lub-DUP”) ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นขณะลิ้นหัวใจปิด
ภาวะเสียงฟู่ของหัวใจอาจเป็นตั้งแต่แรกเกิด หรือเกิดในเวลาต่อมาเมื่อโตขึ้น ภาวะนี้ไม่ใช่โรค แต่เสียงฟู่นี้อาจชี้ให้เห็นปัญหาของหัวใจที่ซ่อนอยู่
เสียงฟู่ของหัวใจที่ไม่บ่งบอกถึงอันตรายแต่อย่างใด เกิดขึ้นได้บ่อย และมักจะเกิดกับเด็กๆ ร้อยละ 40-45 และผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 10 ในบางครั้งของช่วงชีวิต เสียงฟู่ที่ไม่บ่งบอกถึงอันตรายนี้พบได้บ่อยมากกว่าในผู้หญิงในระหว่างการตั้งครรภ์ เสียงฟู่ของหัวใจที่ผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจบกพร่อง ลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ (aortic stenosis) และโรคลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว (mitral regurgitation) โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หากคุณมีอาการเสียงฟู่ของหัวใจแบบไม่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ เสียงฟู่หัวใจชนิดปกติ (innocent heart murmur) มีแนวโน้มว่าคุณจะไม่มีสัญญาณแสดงหรืออาการอื่นใด
อาการเสียงฟู่ของหัวใจแบบผิดปกติอาจไม่ก่อให้เกิดสัญญาณแสดงหรืออาการอื่นๆ อย่างชัดเจน นอกเหนือจากเสียงผิดปกติที่แพทย์จะได้ยิน เมื่อฟังเสียงหัวใจผ่านหูฟัง แต่ถ้าคุณมีสัญญาณแสดงหรืออาการเหล่านี้ อาจชี้ได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเกี่่ยวกับหัวใจ
อาจมีอาการอื่นที่ไม่ได้แสดงไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สภาวะที่พบบ่อยอาจทำให้หัวใจคุณเต็นเร็วขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่ภาวะเสียงฟู่ของหัวใจ อาจเกิดขึ้นได้ถ้าคุณตั้งครรภ์หรือถ้าคุณมีความผิดปกติดังต่อไปนี้
เสียงฟู่อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ โดยปกติ ลิ้นหัวใจจะปิดและเปิดออก เพื่อให้เลือดไหลผ่านห้องหัวใจส่วนบนสองห้อง ที่เรียกว่า atria และสองห้องล่าง คือ ventricles ปัญหาที่เกิดขึ้นกับลิ้นหัวใจ ได้แก่
มีปัจจัยเสี่ยงให้เกิดภาวะเสียงฟู่ของหัวใจมากมาย เช่น
ทารกก็มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะเสียงฟู่ของหัวใจได้เช่นกัน โดยมีปัจจัยต่างๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงดังนี้
ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้ ไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
โดยปกติ สามารถตรวจพบภาวะเสียงฟู่ของหัวใจ เมื่อแพทย์ใช้หูฟังตรวจฟังหัวใจระหว่างการตรวจร่างกาย เพื่อตรวจสอบว่าภาวะเสียงฟู่ของหัวใจบ่งบอกถึงภาวะที่เป็นอันตรายหรือไม่ โดยแพทย์จะพิจารณาจากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
นอกจากนี้ แพทย์จะหาสัญญาณแสดงและอาการอื่นๆ ของโรคหัวใจ และสอบถามเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ และสอบถามว่าสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ของคุณมีเสียงฟู่หัวใจหรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอื่นๆ หรือไม่
ถ้าแพทย์คิดว่าภาวะเสียงฟู่หัวใจผิดปกติ อาจต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม ได้แก่
สีย้อมนี้สามารถเห็นได้บนฟิล์มเอ็กซ์เรย์ ซึ่งช่วยให้แพทย์ของคุณสามารถมองเห็นเลือดไหลผ่านหัวใจ เส้นเลือด และลิ้นหัวใจเพื่อตรวจหาความผิดปกติต่างๆ โดยทั่วไปใช้การทดสอบนี้เมื่อการตรวจอื่นๆ ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด
ผู้ใหญ่และเด็กจำนวนมากมีเสียงฟู่หัวใจแบบไม่อันตราย ซึ่งไม่ต้องการการรักษา แต่ถ้ามีภาวะอื่น เช่น ความดันโลหิตสูง ทำให้คุณเกิดเสียงฟู่หัวใจ แพทย์จะรักษาสาเหตุของโรค
โรคลิ้นหัวใจบางประเภทโดยวิธีดังต่อไปนี้
ไม่ใช่เรื่องพบบ่อย แต่บางครั้งแพทย์จะขอให้ผู้ป่วยใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อที่หัวใจก่อนรักษาฟันหรือดำเนินการผ่าตัดบางประเภท
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองต่อไปนี้อาจช่วยให้คุณสามารถรับมือกับภาวะเสียงฟู่ของหัวใจได้
ในขณะที่คุณไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพื่อป้องกันภาวะเสียงฟู่หัวใจ แต่ก็อาจทำให้เบาใจได้บ้างว่า จริงๆ แล้ว เสียงฟู่หัวใจไม่ใช่โรค และบ่อยครั้งแล้วไม่เป็นอันตราย ในเด็ก เสียงฟู่จะหายไปเองเมื่อโตขึ้น สำหรับผู้ใหญ่ เสียงฟู่อาจหายไปเมื่อโรคที่เป็นสาเหตุเสียงฟู่นั้นหายดี
หากมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ดีขึ้น
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
พลอย วงษ์วิไล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย