-
นอนหลับให้เพียงพอ
การอดนอนอาจทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น จนนำไปสู่การกินอาหารที่มากขึ้นตามไปด้วย โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Obesity (Silver Spring) เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ศึกษาเกี่ยวกับความเครียด คอร์ติซอลและฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร พบว่า ฮอร์โมนคอติซอลและฮอร์โมนอินซูลินที่สูงขึ้น รวมทั้งความเครียดที่เกิดขึ้นอย่างเรื้อรัง ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เปลี่ยนแปลงการเผาผลาญ ทำให้มีการสะสมไขมันเพิ่มขึ้นด้วย
การนอนที่ดีเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงควรนอนหลับสนิทวันละ 7-9 ชั่วโมง/วัน และควรเริ่มนอนในช่วงเวลาที่เหมาะสมตั้งแต่ 20.00-22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ทำให้รู้สึกง่วง
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง
การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด หน้าบวมและตัวบวมได้ เนื่องจาก โซเดียมทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำส่วนเกินไว้จนเกิดอาการบวมน้ำ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of Clinical Investigation เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคเกลือที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการเก็บน้ำในร่างกายและลดการดื่มน้ำ พบว่า การบริโภคโซเดียมสูงขึ้น 6 กรัม/วัน จะเพิ่มการกักเก็บของเหลวในร่างกาย ทำให้ร่างกายขับน้ำส่วนเกินน้อยลง อาจนำไปสู่อาการบวมน้ำได้
อาหารโซเดียมสูงที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง ของหมักดอง อาหารกระป๋อง คุกกี้ เค้ก ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง เนื้อสัตวรมควัน เครื่องปรุงทุกชนิดอย่างเกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสเต้าเจี้ยว กะปิ เครื่องปรุงสำเร็จรูป ซุปก้อน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย